วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2556

สถานที่ท่องเที่ยว ฮ่องกง มาเก๊า


ข้อควรรู้ ก่อน เที่ยวฮ่องกง



1. รถเมล์ฮ่องกงต้องยืนต่อแถว การเดินทาง เที่ยวฮ่องกง โดยรถเมล์ ควรรู้ไว้ว่ารถเมล์ของฮ่องกงจะไม่มีการทอนเงิน ควรเตรียมเงินค่ารถให้พอดี และไม่ต้องแปลกใจถ้าเห็นคนยืนต่อแถวบริเวณป้ายรถเมล์ เพราะรถเมล์ที่นี่จะจอดตามป้ายที่ระบุไว้เท่านั้น โดยป้ายรถเมล์จะแยกเป็นแต่ละสาย ต้องรอคิวให้ตรงสายที่เราต้องการขึ้น และมีหลายสายที่ไม่ได้ทำการเดินรถตลอดคืน จึงควรสอบถามข้อมูลให้ละเอียด จะได้ไม่เสียเวลาในการเดินทางเที่ยว
2. แท็กซี่ คือเพื่อนที่ดีที่สุดยามท่องราตรี เพราะรถไฟใต้ดินฮ่องกงปิดบริการตอนเที่ยงคืน การ เที่ยวฮ่องกง ตอนกลางคืน แท็กซี่ น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่อาจต้องทำใจกับค่าบริการที่สูงกว่าราคาบนมิเตอร์ เพราะพี่แท็กต้องชาร์ตเงินเพิ่ม กรณีเดินทางข้ามฝั่งระหว่างเกาลูนและเกาะฮ่องกง เพราะที่ฮ่องกงรถทุกคันต้องจ่ายค่าบริการใช้อุโมงค์ข้ามฟาก และอีกหนึ่งข้อจำกัดของแท็กซี่ที่นี่ คือ การจำกัดจำนวนผู้โดยสาร 5 คน ต่อคัน
3. ค่าใช้จ่ายในการเดินทางสูง ค่าโดยสารระบบขนส่งต่างๆ ที่ฮ่องกง ค่อนข้างแพง เช่น ค่ารถไฟใต้ดินขั้นต่ำอยู่ที่ 50 บาท การเดินทางข้ามฟากก็มีค่าบริการสูง จึงควรวางแผน เที่ยวฮ่องกง ให้ถี่ถ้วน ว่าในแต่ละวันจะท่องเที่ยวในแถบไหน ฝั่งเกาลูน ฝั่งฮ่องกง อาเบอร์ดีน หรือเกาะอื่นๆ ให้เป็นพื้นที่ใกล้เคียงกัน จะได้ไม่สิ้นเปลืองกับค่าเดินทางมากนัก
4. ฮ่องกงเมืองแห่งระเบียบวินัย บางครั้ง เที่ยวฮ่องกง อาจไม่ลั้นลาทุกย่างก้าวอย่างที่คิด ด้วยกฎข้อบังคับของบ้านเมืองที่ค่อนข้างเข้มงวด การเข้าแถวขึ้น-ลง บันได ทุกคนต้องยืนชิดซ้าย เพราะช่องทางขวาไว้สำหรับคนที่รีบเร่งเท่านั้น การจราจรบนท้องถนน จะไม่มีการปาดแซงหน้า หรือเปลี่ยนเลนกะทันหัน การข้ามถนนก็ต้องรอสัญญาณไฟเสมอ และข้ามตรงทางม้าลายเท่านั้น หรือการเรียกรถแท็กซี่ ก็ต้องมีการเข้าคิว ต่อแถวตรงจุดที่กำหนด การขึ้น-ลงรถทำได้บริเวณที่ทางการอนุญาตเท่านั้น หรือเพียงแค่การทิ้งขยะไม่ถูกที่หรือการถ่มน้ำลายในพื้นที่สาธารณะก็อาจถูกปรับเป็นเงินหลายพันบาทได้
5. ให้ทิปเสมอเมื่อใช้บริการ ฮ่องกงเป็นเมืองท่องเที่ยว ทุกอย่างคือ บริการ ไม่ว่าจะเรียกใช้บริการอะไร ควรเตรียมเงินทิปเพื่อเป็นสินน้ำใจกับพนักงานด้วยจำนวนที่เหมาะสม คือประมาณ 5-10 เปอร์เซ็นต์ ของค่าบริการทั้งหมด และการขอน้ำจิ้มเพิ่มในร้านอาหารบางแห่ง อาจถูกคิดเงินเพิ่ม สอบถามให้ดี หรือจะรู้ตัวอีกที ค่าน้ำจิ้มก็มาโผล่ในบิลเรียกเก็บเงินซะแล้ว
6. อาหารจานยักษ์ อิ่มจุกที่ฮ่องกง แม้เรื่องอาหารการกินที่ฮ่องกงจะราคาสูงกว่าบ้านเรา แต่ก็มีปริมาณที่เยอะมาก  ฉะนั้นหากไป เที่ยวฮ่องกง กับเพื่อนๆ หลายคน แล้วคิดจะสั่งอาหารแบบจานเดียว ควรลองสั่งมาก่อนสัก 2-3 เมนู ดูปริมาณว่าเยอะขนาดไหน แล้วค่อยสั่งเพิ่มหากไม่อิ่มจะดีกว่า ดีกว่าเหลือทิ้งเสียดายของ และไม่ต้องหวั่นว่าสั่งทีหลังได้ช้า เพราะที่ฮ่องกง รับรองเลยว่าทำอาหารและบริการรวดเร็วแบบทันใจ
7. น้ำชา คือ การต้อนรับ เมื่อเดินทางเข้าร้านอาหารใดๆ น้ำชาร้อนจี๋ มักจะพร้อมเสิร์ฟเสมอ คนฮ่องกงไม่นิยมบริโภคน้ำเย็น เพราะฉะนั้น ก่อนจิบระวังนิด มีสิทธิ์ปากพองได้
8. เก็บร่มเปียก ก่อนขึ้นตึก หาก เที่ยวฮ่องกง หน้าฝน หรือจำเป็นต้องฝ่าฝนตก ก่อนก้าวขึ้นตึกใดๆ ต้องนำร่มเก็บในถุงเก็บร่ม ซึ่งทางตึกจะมีบริการแขวนไว้ให้ที่บริเวณทางเข้า เพื่อกันความสกปรกเลอะเทอะบนพื้นอาคาร
9. มิจฉาชีพแฝงอยู่ในแหล่งพลุกพล่าน เที่ยวฮ่องกง ต้องระมัดระวังอย่างมาก ยิ่งเวลาอยู่ในที่ชุมชน เพราะกรุ๊ปทัวร์ มักเป็นกลุ่มเป้าหมายของนักล้วงกระเป๋า
10. ตรวจสอบเวลาเช็คอิน-เช็คเอาท์ โรงแรมที่ฮ่องกง เวลาเช็คอิน-เช็คเอาท์ อาจไม่ใช้มาตรฐานเดียวกันทั้งหมด  บางแห่งให้เข้าพักได้ตอนเที่ยง บางแห่งอาจเป็นช่วงบ่าย หรือบางแห่งเวลาเช็คเอาท์อาจเลทได้ถึงบ่ายสอง จึงควรควรตรวจสอบเวลาก่อนล่วงหน้า เพื่อจะได้ไม่เสียเวลา
11. Adaptor ขาดไม่ได้ ถ้าหอบเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือที่ชาร์ตแบตมือถือไป สิ่งสำคัญอย่างหนึ่ง ที่ควรเตรียมติดกระเป๋าไป คือ Adaptor เพราะที่ ฮ่องกง ใช้ปลั๊กไฟ 3 ขา แบตหมดมาน้ำตาจะได้ไม่ไหลนะ!
12. บริการด่วน Airport Express Link คือ รถไฟสาย เออีแอล (AEL) รถไฟสายด่วน จากสนามบินแล่นถึงใจกลางเมือง ด้วยเวลาเพียง 20 นาทีเท่านั้น และที่สำคัญ ขากลับ หากเลือกใช้บริการนี้จากในเมืองมาที่สนามบิน สามารถเช็คอิน และโหลดกระเป๋าได้ที่สถานีรถไฟใจกลางเมือง โดยไม่ต้องหอบสัมภาระให้ลำบาก หรืออยากจะเช็คอิน ส่งกระเป๋าขึ้นเครื่องล่วงหน้า แล้วเอาเวลาไปเดินช้อป เที่ยวฮ่องกง ได้อีกนิดหน่อย ค่อยขึ้นรถไฟไปสนามบินตอนใกล้เวลา เครื่อง Take off ก็ยังได้ แต่ก็ไม่ควรชะล่าใจ ต้องคำนวณและเผื่อเวลาให้รอบคอบ เพราะที่ฮ่องกงมีกฎในการปิดประตูเครื่องก่อนขึ้นบิน 20 นาที อย่างเคร่งครัด ถ้ามาไม่ทันรับรองว่าตกเครื่องแน่นอน
13. น้ำชักโครกคือน้ำทะเล เพราะน้ำจืดมีราคาแพง เครื่องชักโครกในส้วม จึงต้องใช้น้ำทะเลด้วยความที่เป็นเกาะ ที่ฮ่องกงมีการวางท่อน้ำทะเล เพื่อใช้สำหรับน้ำชักโครกโดยเฉพาะ
14. เจ้าพ่อฮวงจุ้ย ตึกรามบ้านช่องที่เราเห็นว่ามีรูปทรงแปลกตา สวยงามไม่ซ้ำใคร ล้วนมาจากความเชื่อเรื่องฮวงจุ้ย  โดยเฉพาะช่วงวันขึ้นปีใหม่ของทุกปี จะมีรายการโทรทัศน์คอยให้คำแนะนำเรื่องการตกแต่งบ้านให้เหมาะกับราศี เพื่อปรับฮวงจุ้ยรับความเฮง
15. รถยนต์มีไว้สำหรับคนรวย รถยนต์ที่ฮ่องกง มักจะเห็นแต่ยี่ห้อหรูหราอย่าง เบนซ์ เล็กซัส หรือ บีเอ็มดับเบิ้ลยู เพราะคนที่สามารถซื้อรถได้ต้องมีฐานะดีมาก เนื่องจากการมีรถหนึ่งคันต้องเสียค่าใช้จ่ายต่างๆ สูงมาก นอกจากค่าประกัน ค่าบำรุงรักษา ยังมีเรื่องค่าที่จอดเข้ามาอีกด้วย
16. ธนบัตรฮ่องกงหลากหลายมาก เนื่องจากมีหลายธนาคารที่รับผิดชอบการพิมพ์ การผลิต ธนบัตรของฮ่องกง มูลค่าเดียวกันจึงมีหลายแบบ หลายลวดลาย แต่จะเหมือนกันอยู่อย่างเดียวคือ สี ที่จำแนกตามราคา


ดารานักร้องฮ่องกง
เฉินกวานซี  




 หลิว เต๋อหัว



จาง ป๋อ จือ





เฉินหลง




อาเจียว




อู๋ เอี้ยน จู่




หลี่หมิง




ไช่จั๊วเหยียน




แองเจลล่าเบบี้



หยูเวิ่นเล่อ









สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในฮ่องกง

"ฮ่องกง" ชวนคุณมาสัมผัสความผสมผสานที่กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียว ระหว่างมรดกทางวัฒนธรรมและความทันสมัยของเมืองแห่งสีสัน และความคึกคัก ที่ซึ่งตะวันออกและตะวันตกมาบรรจบกันอย่างลงตัว เพลิดเพลินไปกับการจับจ่ายในช้อปปิ้งมอลล์สุดหรู ไปจนถึงตลาดกลางแจ้ง อิ่มอร่อยไปกับอาหารนานาชาติรสเลิศ หรืออาหารพื้นเมืองสุดวิเศษ พร้อมการเดินทางที่แสนสะดวกสบายด้วยระบบขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ราคาประหยัด และให้บริการเป็นประจำที่สุดในโลก เส้นทางคมนาคมที่ต่อเชื่อมกับระบบรถไฟใต้ดิน (Mass Transit Railway - MTR) และเส้นทางรถประจำทางต่างๆ ได้แก่ เครือข่ายเส้นทางรถไฟสายเกาลูน - แคนตัน เรลเวย์ (Kowloon Canton Railway - KCR) และรถไฟสายสั้น (Light Rai - LR) รถรางและเรือเฟอร์รี่ นอกจากนี้ยังมีแท็กซี่วิ่งให้บริการและการเดินทางทั่วเมืองตามปกติ ซึ่งจะรวดเร็วและสะดวกมาก…ไม่ผิดเลยที่ใครหลายคนจะยกย่องให้ "ฮ่องกง" เป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยว เพราะเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก สถานที่ท่องเที่ยว และแหล่งช้อปปิ้งมากมายที่ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์

ย่านเซ็นทรัล (ช้อปปิ้ง)
The Landmark Centre ช้อปปิ้งคอมเพล็กซ์ที่เก่าแก่และคลาสสิกของเกาะฮ่องกง หลังจากปิดปรับปรุงไม่นานก็กลับมายิ่งใหญ่และสวยงามกว่าเดิม ภาพของร้านแบรนด์หรู--หลุยส์ วิตตองด้านหน้าตรงมุมถนน ถือเป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญแถบเซ็นทรัล ในห้างประกอบด้วยบูติกช็อปจากแบรนด์ระดับโลกมากมาย อาทิ Gucci, Fendi, Louis Vuitton ฯลฯ


IFC Mall  เป็นห้างที่อยู่ในตึกไอเอฟซี ตึกที่สูงที่สุดในฮ่องกง มีร้านค้ามากกว่า 200 ร้านทั้งแบรนด์ดัง และคอนเซ็ปต์สโตร์อีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร สแน็กบาร์ และคอฟฟี่ชอปเก๋ๆ ห้างนี้มีทางเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟ Airport Express เซ็นทรัลเข้าสู่สนามบินโดยตรง เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่เช็กอินกระเป๋าแล้วยังมีเวลาเหลือก่อนนั่งรถไฟ ไปขึ้นเครื่อง


The Pedding Building อาคารทรงยุโรปที่นี่มีร้านค้านำเข้าเสื้อผ้าดีไซเนอร์ชาวยุโรป ผ้าแคชเมียร์ เครื่องประดับจากฝรั่งเศสและอิตาลี และอีกจุดเด่นก็คือร้าน China Tea Club ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้นหนึ่ง ให้คุณดื่มด่ำชาในบรรยากาศยุค ‘30s เพื่อคลายความเมื่อยล้าจากการช้อปปิ้ง
(ที่เที่ยว)
Victoria Peak&Peak Tram  วิกตอเรียพีกคือสถานที่ชมภาพความประทับใจ ณ จุดสูงสุดของฮ่องกง ด้วยความสูงถึง 554 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล สามารถมองเห็นวิวได้ไกลถึงเมืองจีนและมาเก๊า ที่นี่ขึ้นถึงจุดสูงสุดได้ด้วยรถรางไฟฟ้า 72 ที่นั่ง ซึ่งมีอยู่ 2 ขบวน ตลอดเวลาการนั่งรถแทรมหรือรถราง 8 นาที สามารถสัมผัสบรรยากาศที่แวดล้อมด้วยป่าเขาและแมกไม้ ด้านบนเดอะพีกทาวเวอร์ซึ่งป็นอาคารรูปทรงเหมือนเรือแล้ว หากผู้ใดสนใจชมหุ่นขี้ผึ้งของเหล่าคนดังไม่ควรพลาดชม Madame Tussauds สาขาฮ่องกง และที่พลาดไม่ได้คือการชมวิวฮ่องกงที่วิกตอเรียพีกในยามค่ำคืน เพราะถือเป็นหนึ่งในวิวที่สวยที่สุดในโลกอีกด้วย

Lan Kwai Fong & Soho ที่นี่ความสนุกเริ่มต้นเมื่อแสงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ถนนลานไกวฟองบรรดาร้านอาหาร ร้านค้าและบาร์ต่างแข่งกันตกแต่งให้ดูเทรนดี้ ผู้คนมาเที่ยวจะเป็นนักท่องเที่ยวและคนทำงานรุ่นใหม่ ในช่วงสิงหาคมของทุกปี จะมีงานเทศกาลอาหารฮ่องกง ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าแผงลอยขายอาหารนานาประเทศ เดินถัดขึ้นไปตลอดถนนลานไกวฟอง เยื้องไปทางขวามือคือถนนโซโห ซึ่งเรียงรายไปด้วยร้านอาหารเก๋ๆ ร้านขายภาพ แกลอรี่ของโบราณ และศูนย์รวมผับบาร์ที่ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าลานไกวฟอง

ย่าน Admiralty
(ช้อปปิ้ง)

Pacific Place  ช้อปปิ้งมอลล์ที่นำเทรนด์ของฮ่องกง ซึ่งภายในพื้นที่ 3 ชั้นแรกของหมู่โรงแรม 3 แห่ง คือ Conrad Shangri-La และ JW Marriotte เป็นที่ตั้งของร้านค้ามากกว่า 200 ร้าน รวมทั้งฟู้ดฮอลล์ขนาดใหญ่ที่อยู่ชั้นล่าง และห้างใหญ่อีก 3แห่ง คือ Lane
Crawford, Mark &Spencer และ Seibu ที่นี่เหมาะสำหรับช้อปปิ้งและรับประทานอาหารดีๆ

ย่านคอสเวย์เบย์ 
(ช้อปปิ้ง)

Times Square ไม่ต่างอะไรกับไทม์สแควร์ในนิวยอร์กเลยทีเดียว เพราะเป็นแหล่งรวมวัยรุ่น ฝูงชนจะแออัดโดยเฉพาะวันหยุด สาเหตุที่บริเวณนี้เต็มไปด้วยผู้คนก็เพราะมีร้านต่างๆ มากมาย อาทิ Giordano, Esprit, Origin นอกจากนี้ยังร้านแบรนด์ Zara และ JC Shop ร้านขายของเล่นนำเข้าจากญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีห้าง Land Crawford และ City Super  ในส่วนของชั้น 7 ขึ้นไป จะเป็นศูนย์รวมคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ และยังมีร้านอาหารอร่อยๆ ให้เลือกชิมถึง 12 ร้านด้วยกัน


Sogo  ในบรรดาห้างญี่ปุ่น ห้างโซโก้ที่คอสเวย์เบย์ถือเป็นห้างที่หรูกว่าที่อื่น แต่ราคาจะถูกกว่า ส่วนใหญ่จะมากันเป็นครอบครัวเพราะมีสินค้าตั้งแต่ เสื้อผ้า ของเด็กเล่น เฟอร์นิเจอร์ ของประดับบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า และซูเปอร์มาร์เก็ตที่ใหญ่มาก

Lee Gardens  ระหว่างช้อปที่นี่คุณอาจได้กระทบไหล่ดาราฮ่องกง เพราะที่นี่เต็มไปด้วยแบรนด์หรูระดับโลก อาทิ Bally, Louis Vuitton, Cartier,Chanel, Christian Dior, Hermes, Prada, Gucci, Tod’s ฯลฯ สถานที่ช้อปปิ้งแห่งนี้เป็นที่นิยมมากของเหล่าคนมีเงิน รวมทั้งซูเปอร์สตาร์ชาวฮ่องกงหรือฮอลลีวู้ด

(ที่เที่ยว)
Lockhart Road (Wan Chai Causeway Bay HK) ถนนล็อคอาร์ตเส้นนี้เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับคนที่เป็นแฟนหนังสือของริชาร์ด เมสัน ผู้เขียนนวนิยายเรื่อง The World of Suzy Wong ซึ่งกล่าวถึงถนนสายนี้ว่าเป็นถนนโลกีย์ ที่มีผับบาร์ และแหล่งบันเทิงเริงรมย์มากมาย ยิ่งช่วงเวลาที่ทหารจีไอชาวอเมริกันมาแวะพัก ถนนสายนี้จะคึกคักไม่ต่างจากพัทยาสักเท่าไหร่

Happy Valley Racecourse การแข่งม้าเป็นธุรกิจพนันชนิดเดียวที่ถูกกฎหมายของฮ่องกง มีมูลค่ามหาศาลนับพันๆ ล้านดอลล่าร์ ซึ่งทำรายได้ให้กับฮ่องกงจ๊อกกี้คลับเป็นอย่างมาก สำหรับฤดูกาลแข่งม้าโดยทั่วไปเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน - พฤษภาคมของทุกปี จะมีการแข่งขันทุกๆ วันพุธ ซึ่งมีเงินสะพัดมากสุดวันหนึ่งในฮ่องกงไม่แพ้บรรยากาศแบบตลาดหุ้นเลยทีเดียว และแม้ว่าจะมีสนามม้าเพิ่มอีกแห่งแถบ Shatin แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ยังชอบที่แฮปปี้วัลเลย์มากกว่า ด้วยความสวยคลาสสิกในสไตล์โรมัน และเป็นตำนานของการแข่งม้าระดับโลก

Causeway Bay Typhoon Shelter อ่าวกลางเมืองที่เรียงรายไปด้วยเรือยอชของมหาเศรษฐีชาวฮ่องกงและชาวจีน จนได้ชื่อว่าเป็นอ่าวหนึ่งที่มีเรือยอร์ชจอดหนาแน่นที่สุดในโลก นอกจากภาพความหรูหรา เมื่อมองไปรอบอ่าวจะเห็นภาพที่ตัดกันราวสีขาวดำนั่นก็คือ ชุมชนชาวเรือฮ่องกงที่อาศัยในเรือประมงทั้งขนาดเล็กและใหญ่จอดล้อมรอบอ่าว ส่วนใหญ่จะเป็นคนแก่ที่อยู่อ่าวนี้มานานแล้ว

Zoological & Botanical Gardens  สวนพฤกษศาสตร์พื้นที่ 5.6 เฮ็กตาร์นี้ประกอบไปด้วยสวนสัตว์ สนามเด็กเล่น สวนน้ำตก และรูปปั้นที่งดงาม ภายในสวนมีสิ่งมีชีวิตหาดูได้ยาก อาทิ นกนานาพันธุ์กว่า 160 ชนิด สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกว่า 70 ชนิด สัตว์ดุร้ายกว่า 60 ชนิด ไม่เสียค่าบริการ เปิดตั้งแต่เวลา 06.00 - 22.00 น

สถานที่ท่องเที่ยวในเขตเกาลูน

ย่านTsim Sha Tsui
(ช้อปปิ้ง)

Harbour City  หนึ่งในช้อปปิ้งมอลล์ที่ใหญ่ที่สุดในฮ่องกง ภายในเชื่อมต่อด้วยห้างใหญ่ๆ อย่างโอเชียนเทอร์มินอล โอเชียนเซ็นเตอร์ เกตเวย์อาเขต รวมถึงช้อปปิ้งอาเขตของโรงแรมมาร์โคโปโล มีร้านค้ามากกว่า 700 ร้าน อาทิ ห้างชื่อดัง Lane Crawford แบรนด์ของเล่นชื่อเสียงระดับโลกอย่าง Toy’R Us หรือ LCX Concept Store ซึ่งขายสินค้าเทรนดี้สำหรับวัยรุ่น นอกจากนี้ยังมีฟู้ดคอร์ต และโรงภาพยนตร์บริการอีกด้วย เปิดทุกวันตั้งแต่ 11.30 - 21.00 น.

Tsim Sha Tsui Sogo Department Store (12 Salisbury Road, Tsim Sha Tsui, Kowloon) เป็นสาขาของโซโก้ที่เพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นานแต่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการเดินทางมาสะดวก และมีสินค้าชั้นนำสไตล์ห้างญี่ปุ่นให้เลือกมากมาย แถมมีฟู้ดฮอลล์อาหารหลากสไตล์ให้ได้ลิ้มลอง เปิดทุกวันตั้งแต่ 10.00 - 22.00 น.

Park Lane Shopper’s Boulevard (111-183 Nathan Road,Tsim Sha Tsui, Kowloon) โอเอซิสสำหรับนักช้อปตั้งอยู่ริมฝั่งถนนด้านซ้าย ติดกับสวนสาธารณะเกาลูน ตลอดความยาว 200 - 300 เมตร จะมีบูติกช็อป และร้านเสื้อผ้าเน้นดีไซน์ เครื่องหนังเท่ๆ และในช่วงคริสต์มาสตลอดแนวปาร์กเลนจะสว่างไสวด้วยหลอดไฟสีเหลืองจำนวนมหาศาล พร้อมต้นคริสต์มาสยักษ์ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม ที่นี่เปิดตั้งแต่ 10.00 - 23.30 น.


Rise Shopping Arcade ที่นี่อัดแน่นไปด้วยเสื้อผ้าแฟชั่นสตรีตแวร์และผลงานของดีไซเนอร์หน้าใหม่ไฟแรง นอกจากนี้ยังมีสินค้าสุดฮิตของญี่ปุ่นสำหรับคนแนวๆ โดยเฉพาะ เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 16.00 - 22.00 น.

ที่เที่ยว Star Ferry Pier ท่าเรือที่ใช้ข้ามฟากระหว่างเขตเซ็นทรัลของเกาะฮ่องกง และเขตจิมซาจุ่ยของฝั่งเกาลูน จัดเป็นท่าเรือที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเกาะฮ่องกง เนื่องจากเป็นหนึ่งในเส้นทางสัญจรยอดนิยมของนักท่องเที่ยวและชาวฮ่องกง การนั่งเรือข้ามฟากนี้ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมชมวิวของอ่าววิกตอเรียที่นัก ท่องเที่ยวไม่ควรพลาด แม้แต่ชาวฮ่องกงเองยังใช้เรือเฟอร์รี่ในการเดินทางหลัก เพราะมีราคาเพียง 3.2 เหรียญฮ่องกง (ประมาณ 16บาท) นอกจากนี้ยังมีฮาร์เบอร์ซิตี้ที่ตั้งอยู่ในเขตท่าเรือข้ามฟาก ซึ่งเต็มไปด้วยแหล่งช้อปอย่าง
โอเชียน เทอร์มินอลอีกด้วย สตาร์เฟอร์รี่เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.30 - 23.30 น.


Kowloon Park แหล่งฟอกปอดที่ใหญ่ที่สุดของคนเกาลูน ประกอบด้วยพื้นที่สีเขียว สวนหย่อมที่ประดับประดาไปด้วยรูปปั้นต่างๆ สวนสไตล์จีน น้ำตก ทะเลสาบ สนามเด็กเล่น สระว่ายน้ำในร่มขนาดเท่าสระโอลิมปิกและห้องออกกำลังกาย นอกจากคนฮ่องกงจะมาออกกำลังกายแล้ว นักท่องเที่ยวที่เมื่อยล้ากับการช้อป หรืออยากเปลี่ยนบรรยากาศจากความวุ่นวาย ไม่ควรพลาดมาพักผ่อนที่นี่ ค่าเข้าฟรี เปิดทุกวันตั้งแต่ 06.00 - 24.00 น.

ย่านYau Ma Tei, Mong Kok, Prince Edward

Langham Place (8 Argyle Street,Mongkok Kowloon) ด้วยพื้นที่กว่า 600,000 ตารางฟุต ร้านค้ากว่า 300 ร้าน และที่นี่ยังได้รับการออกแบบจากสถาปนิกชื่อดังชาวญี่ปุ่น "ไบรอัน ฮอนด้า" ทำให้เป็นห้างสุดฮิปที่คลาคล่ำไปด้วยวัยรุ่น เหมาะกับคนที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง นอกจากเสื้อผ้าแฟชั่นแนวใหม่ ยังมีโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่กว่า 1,000 ที่นั่ง และบาร์ Ozone ที่เก๋ไม่หยอก เปิดเวลา 11.00 - 23.00 น


ย่านYau Ma Tei, Mong Kok, Prince Edward

Langham Place (8 Argyle Street,Mongkok Kowloon) ด้วยพื้นที่กว่า 600,000 ตารางฟุต ร้านค้ากว่า 300 ร้าน และที่นี่ยังได้รับการออกแบบจากสถาปนิกชื่อดังชาวญี่ปุ่น "ไบรอัน ฮอนด้า" ทำให้เป็นห้างสุดฮิปที่คลาคล่ำไปด้วยวัยรุ่น เหมาะกับคนที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง นอกจากเสื้อผ้าแฟชั่นแนวใหม่ ยังมีโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่กว่า 1,000 ที่นั่ง และบาร์ Ozone ที่เก๋ไม่หยอก เปิดเวลา 11.00 - 23.00 น


Sasa Cosmetics (Shop G1-G5 Basement B&C, Hollywood Plaza Mongkok Kowloon) ซาซ่า เปรียบได้กับร้านวัตสัน มีสินค้าน้ำหอม เครื่องสำอางชื่อดังมากมาย แต่ถูกกว่าตามห้างใหญ่ๆ นอกจากมีสาขาทั่วฮ่องกง ร้านนี้ยังถูกคัดเลือกให้เป็นแบรนด์ยอดนิยมของคนฮ่องกงถึง 2 ปีซ้อนเลยทีเดียว เปิดทุกวันตั้งแต่
11.00 - 23.00 น.


Flower Market ตลาดขายดอกไม้นานาชนิด ถือเป็นสถานที่สวยงามเหมาะสำหรับการถ่ายรูปและเดินชมโดยเฉพาะในช่วงเช้าๆ คล้ายตลาดดอกไม้ในยุโรปเลยทีเดียว

Temple Street-Night Market แหล่ง ท่องเที่ยวในยามค่ำคืน ที่ตลอดแนวถนนที่มีความยาวไม่กี่ร้อยเมตร คลาคล่ำไปด้วยแผงลอย และร้านค้าหลายประเภท อาทิ เสื้อผ้า เครื่องประดับ ของที่ระลึก นาฬิกา แว่นตากันแดด ตลาดนัดกลางคืนแห่งนี้ได้รับฉายาว่าเป็น Dai Pai Dong แปลว่า ที่รวบรวมร้านอาหารประเภทแผงลอย โดยเฉพาะอาหารซีฟู้ดนานาชนิด ของทอดสไตล์จีนในราคาไม่แพงนัก นอกจากนี้ยังมีดูดวงบริการ โดยใช้นกเป็นเครื่องมือในการทำนาย

สถานที่เที่ยวเขตเกาะลันเตาและอื่นๆ

             New Town Plaza ด้วยพื้นที่กว่า 2 แสนตารางเมตร ประกอบด้วย 3 โครงการหลัก คือนิวทาวน์พลาซาเฟส 1, 2 และ 3 และแกรนด์เซ็นทรัลพลาซา ทำให้กลายเป็นอีกหนึ่งช้อปปิ้งมอลล์ที่ใหญ่ที่สุดในฮ่องกงเช่นกัน ที่โดดเด่นจะมีห้างหรู Marks & Spencer ซูเปอร์มาร์เก็ตไฮโซอย่าง City’Super Snoopy’s World โลกแห่งความบันเทิงสำหรับหนูๆ กลางแจ้งแห่งแรกในเอเชีย และสำหรับวัยรุ่นมักจะช้อปแบรนด์ดังที่ Seiyu ของญี่ปุ่น สำหรับผู้หลงใหลของแต่งบ้านต้องเข้ามาที่ แกรนด์เซ็นทรัลพลาซ่า มีแบรนด์ดีๆ รออยู่อย่าง Ikea ซึ่งเป็นสาขาใหญ่ที่สุดในฮ่องกง

        Disneyland สวนสนุกดิสนีย์แลนด์เพียบพร้อมเครื่องเล่นอันทันสมัย และสุดสนุกที่สุดแห่งใหม่ของเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่
  • MAIN STREET USA โซนร้านค้าขายของที่ระลึกและร้านอาหารมากมาย พร้อมตัวการ์ตูนขวัญใจของเด็กๆ และถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
  • TOMORROW LAND สนุกกับเครื่องเล่นแนวโลกอนาคตอันทันสมัย อย่าง Buzz Lightyear Astro Blasters เครื่องเล่นที่ปกป้องจักรวาลจากผู้รุกราน
  • FANTASY LAND พบกับโชว์อันยิ่งใหญ่ตระการต าและตัวการ์ตูนที่ท่านชื่นชอบ อาทิ สโนว์ไวท์ เจ้าหญิงนิทรา ซินเดอเรลลา มิกกี้เม้าท์ และเพื่อนๆ ตัวการ์ตูนที่น่ารักอีกเพียบ
  • ADVENTURE LAND ดินแดนแห่งการผจญภัยอันตื่นเต้น Jungle River Cruise ล่องเรือในป่า ผจญภัยกับสัตว์ป่าอันน่าตื่นเต้นนานาชนิด Tarzan’s Tree House บ้านต้นไม้ของทาร์ซานและ ช่วงเย็นก่อนปิดสวนสนุก 30 นาที ท่านจะได้พบกับพลุไฟอันยิ่งใหญ่ตระการตาอันเป็นเอกลักษณ์ของดิสนีย์แลนด์

โรงแรมแนะนำ

Island Shangri-la Hotel โรงแรมหรูบนเกาะฮ่องกง ตั้งอยู่ภายใต้ช้อปปิ้งมอลล์แปซิฟิกเพลส ขนาดใหญ่ ล็อบบี้ตกแต่งด้วยแชนเดอร์เลียคริสตัลจากออสเตรียกว่า 780 เม็ด ห้องพักมีขนาดใหญ่ที่สุดในฮ่องกง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกระดับห้าดาว ท่ามกลางวิวภูเขาที่สวยงาม

Park Lane Hong Kong แรงบันดาลใจจากกลิ่นอายบริติชแถวไนท์บริดจ์ ได้ถูกนำมาผสมผสานในการออกแบบโรงแรมแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นล็อบบี้ที่ดูน่ารัก มีเสน่ห์ อ่างอาบน้ำหรูที่ทำจากหินอ่อน เครื่องเรือนมีคลาส ที่ดูเท่ พร้อมวิวสวนสวย วิวท่าเรือ และร้านอาหารบนดาดฟ้าที่มองเห็นภาพกว้างแบบพาโนรามา

Excelsior Hong Kong  ก่อตั้งในปี 1973 จนถึงปัจจุบันก็ยังเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว ด้วยทำเลที่อยู่ใจกลางแหล่งช้อปปิ้ง และห้องพักส่วนใหญ่ถูกออกแบบให้มองเห็นวิวทะเล ส่วนชั้นบนสุดของโรงแรมเป็นร้านปิ้งย่างชื่อดัง อย่าง Tott’s Asian Grill & Bar

Silvermine Beach Hotel  หากต้องการที่พักเป็นส่วนตัว และอยากเปลี่ยนบรรยากาศกับการนั่งเรือเฟอร์รี่จากเกาะฮ่องกงเพื่อมาพักที่ นี่ ชมเกาะแก่งต่างๆ รายรอบเกาะฮ่องกง ที่นี่ถือเป็นจุดศูนย์กลางที่เหมาะสำหรับการกลับมารีแลกซ์ยามค่ำคืน

ร้านอาหารแนะนำ

The Verandah  ลิ้มลองรสชาติอาหารนานาชาติฝีมือเชฟที่การันตีโดยเครือเพนนินซูลา พร้อมจิบไวน์ในบรรยากาศชายหาด และนอกจากบริติชทีที่ทุกคนต้องสั่งแล้ว ที่ต้องจองล่วงหน้าเป็นอาทิตย์ๆ ก็คือ ซันเดย์บรันช์ ซึ่งมีเมนูเลิศรส อาทิ ตับห่านย่างทันโดริ พาสต้าเห็ดนางฟ้าราดซอสกุ้งมังกร สเต็กเนื้อสันยูเอสราดซอสไวน์คาร์บอเนท์ เซวิยอง

Café Too  ร้านอาหารที่ขึ้นชื่อว่าสุดแสนโรแมนติกจากความเขียวขจีของสวนฮ่องกง และสัมผัสความอลังการของบุฟเฟ่ต์หรูทั้งคาวหวาน ที่มีอยู่ถึง 7 มุมอร่อย อาทิ หอยนางรม ปูสด ติ่มซำ และอาหารนานาชาติ ทำให้ที่นี่เลืองชื่อว่าดีและคุ้มค่ามากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยทีเดียว


Han Lok Yuen, Lamma โดดเด่นด้วยอาหารที่ขึ้นชื่ออย่าง "นกพิราบย่าง" ขอเตือนว่าใครที่มาเที่ยวเกาะลัมมา ไม่ควรมาร้านนี้ช้าเกินไปเพราะคนจะเยอะมาก เมนูเด็ดที่ว่าอาจหมดเร็วกว่าที่คิด ที่นี่นอกเหนืออาหารรสชาติเยี่ยม ยังสามารถชมวิวทะเลที่สวยงาม แขกประจำคนสำคัญของที่นี่คือ คริส แพทเทอร์น อดีตผู้ว่าการฯ

Kau Kee Restaurant ร้านเก่าแก่ มีดีที่เมนูเนื้อตุ๋นซุปใส ที่ซูเปอร์สตาร์ดังอย่าง เหลียงเฉาเหว่ย เป็นลูกค้าประจำมานานแสนนาน ด้วยความหอมของเครื่องเทศผสานกับความหวานของน้ำซุป ที่ได้จากการต้มกระดูกวัว 100 ชิ้น และเนื้ออกอีก 300 ชิ้น พร้อมคุณประโยชน์ของสมุนไพรทำให้ทุกคนในร้านต้องสั่ง "เหง่าหลามหมิ่น"


Yung Kee  ร้านดังที่เปิดมานานกว่า 65 ปี (ค.ศ. 1942) แถมเคยมีชื่อติดอันดับร้านอาหารดัง 1 ใน 15 ของโลกมาแล้ว (ค.ศ. 1968) โดยเมนูเด็ดของทางร้านมีหลากหลาย แต่ที่คุ้นหูนักท่องเที่ยวชาวไทยและทั่วโลก ก็คือห่านย่างหนังกรอบ และไข่เยี่ยวม้า ซึ่งทั้งสองอย่างขอบอกว่าอร่อยจริงๆ เปิด 11.00 - 23.30 น. ติ่มซำเสิร์ฟ 14.00 - 17.00 น.

Cafe de Coral (ร้านนี้จะตั้งอยู่ทั่วเกาะฮ่องกงและฝั่งเกาลูน) เรียกได้ว่าเป็นร้านฝากท้องหรือร้านประจำของคนทำงาน และนักท่องเที่ยวที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย สำหรับเมนูที่แนะนำของที่นี่ก็คือ ข้าวหน้าเป็ดย่าง ร้านนี้สามารถสั่งเป็นเซ็ตเมนู (ข้าว+น้ำ) หรือสั่งเฉพาะข้าวก็ได้ และเมนูอาหารจะเปลี่ยนไปตามเวลา เช่น ตอนเช้าจะมีเซ็ตข้าวต้ม หรือขนมจีบ ส่วนเที่ยงจะเป็นอาหารจานหลัก บ่าย 14.30 - 16.30 น. จะเป็นช่วงอาหารว่างตอนบ่าย ซึ่งช่วงนี้จะเป็นช่วงที่อาหารถูกมาก (ย้ำถูกจริงๆ) จะมีเมนูเซ็ตต่างๆ ให้เลือกทานกัน ที่สำคัญไม่ต้องกลัวสั่งผิดเพราะทางร้านมีป้ายเมนูเป็นภาษาอังกฤษ

Wu Long Congee and Wonton Noodles บะหมี่กับเกี๊ยวของคุณลุงเจ้าของร้านนี้ ได้รับรางวัลชนะเลิศในงาน Best of The Best หรืองานสุดยอดของสุดยอดของอาหารฮ่องกงมาแล้ว นอกจากเส้นและเกี๊ยวแสนอร่อย ยังมีทีเด็ดอยู่ที่น้ำซุป ซึ่งทำโดยการนำเปลือกกับหัวของกุ้งไปต้มให้เดือด และใส่เครื่องเทศไปด้วยนิดหน่อย มันจะออกมาข้นๆ หน่อย มีกลิ่นหอมและมีความหวานมันที่ออกมาจากมันกุ้ง ส่วนเมนูอื่นก็อร่อยไม่แพ้กัน อาทิเกี๊ยวทอดกรอบไส้กุ้ง โจ๊กทะเลและเนื้อรวม และผักคะน้าฮ่องกงลวกราดน้ำมันหอย ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ บรรยากาศกันเอง อยู่ในซอย Lee Tung ฝั่งฮ่องกงในเขต Wan Chai


                          อะเวนิว ออฟ สตาร์



            ด้วยอานิสงส์ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของฮ่องกงในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา ผู้คนในเอเชียและที่อื่นๆ ล้วนคุ้นเคยกับทิวทัศน์ของเมืองนี้ ก่อนที่พวกเขาจะได้มาเยือนเสียด้วยซ้ำ อะเวนิว ออฟ สตาร์ เป็นสถานที่รำลึกถึงบุคคลที่มีส่วนทำให้ฮ่องกงกลายเป็น "ฮอลลีวูดแห่งตะวันออก" นักท่องเที่ยวที่มาเยือนสถานที่นี้ยังจะได้ชมวิวอันตระการตาของเส้นขอบฟ้าที่งดงามตัดกับเดอะพีคอย่างน่าประทับใจ
             เรื่องราวความสำเร็จของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ฮ่องกงถูกบอกเล่าผ่านแผ่นจารึกเกียรติคุณ รอยประทับมือของนักแสดง ประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ ของที่ระลึกเกี่ยวกับภาพยนตร์ รูปปฏิมากรรมขนาดเท่าตัวจริงของวีรบุรุษกังฟู บรูซ ลี และการจัดแสดงรูปสำริดของตัวการ์ตูนยอดนิยมอย่างแมคดัล อะเวนิว ออฟ สตาร์ นำเสนอความรุ่งโรจน์ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของฮ่องกงโดยมีอ่าววิคตอเรียที่มีเสน่ห์ดึงดูดเป็นฉากได้อย่างลงตัว
ทราบหรือไม่ ?
             "คุณสามารถย้อนรอยประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ฮ่องกงไปมากกว่าร้อยปีได้ที่อะเวนิว ออฟ สตาร์ เริ่มจากผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องดังคนแรกของฮ่องกง ผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น ""บิดาของภาพยนตร์ฮ่องกง"" คุณไหลมั่นหวาย ซึ่งกำกับเรื่อง Zhuangzi Tests his Wife ในปี 1913 ไปจนถึงซูเปอร์สตาร์ระดับโลกในยุคปัจจุบัน ได้แก่ แจ็คกี้ ชาน และโจวเหวินฟะ
               

                                                                                             เดอะพีค

                                    


             ถ้าคุณต้องเลือกสถานที่เพียงแห่งเดียวในฮ่องกงที่คุณควรไปเยือน ให้เลือกเดอะพีค และถ้าคุณคิดถึงสถานที่ที่มีกิจกรรมมากมายให้คุณทำ ก็ให้นึกถึงเดอะพีค เดอะพีคคือจุดสูงสุดของเกาะฮ่องกง เป็นย่านหรูหราที่สุดของเมืองมาตั้งแต่สมัยยุคอาณานิคม ในสมัยนั้น อากาศที่เย็นสบายของย่านนี้ได้ดึงดูดเศรษฐีและผู้มีชื่อเสียง จนมาถึงยุคหลังจากมีเครื่องปรับอากาศ ทัศนียภาพของเมืองที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลกยังคงทำให้คนเหล่านั้นหลั่งไหลมาที่นี่ และทัศนียภาพนั้นยังเป็นสิ่งที่ทำให้เดอะพีคเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของฮ่องกง ในเวลากลางวัน คุณสามารถทอดสายตาออกไปชมตึกระฟ้าเรียงรายระยิบระยับและความงดงามของอ่าววิคตอเรีย ไปจนถึงเนินเขาสีเขียวของเขตนิวเทอร์ริทอรี่ส์ ในตอนพลบค่ำ ทัศนียภาพตระการตานี้จะเปลี่ยนเป็นสีชมพูและสีส้ม ก่อนจะกลายเป็นแสงประกายดุจดวงดาวปรากฎขึ้นเบื้องหน้าคุณ และถ้าคุณสดับฟังอย่างตั้งใจ คุณจะได้ยินเสียงเพลงแห่งนครระดับโลกของเอเชียกระซิบอยู่เบื้องล่างของคุณ
จุดชมวิว
              พีคทาวเวอร์เป็นอาคารรูปทั่ง มีศาลาชมวิวขนาดใหญ่ชื่อว่าสกายเทอร์เรซ 148 และยังมีร้านอาหารและร้านค้าปลีกมากมายอีกด้วย นอกจากนี้ คุณยังสามารถแวะชื่นชมทัศนียภาพได้จากที่จุดชมวิวบนถนนลูการ์ด ศาลาชมวิวไลออน และเทอร์เรซชมวิวที่เดอะพีค แกลเลอเรีย หากคุณต้องการลัดเลาะชมวิวสองข้างทางอย่างผ่อนคลายสบายใจ ต้องลองเดินไปตามระยะทาง 3.5 กิโลเมตรของพีคเซอร์เคิลวอร์ก
การนั่งพีคแทรมเป็นประสบการณ์ที่คุณไม่ควรพลาด ชื่นชมตึกระฟ้าของเกาะฮ่องกงเคลื่อนผ่านหน้าต่างไปในมุมที่คาดไม่ถึง เมื่อคุณไต่ระดับขึ้นไปยังเดอะพีคตามรางกระเช้าไฟฟ้าที่มีประวัติเก่าแก่ของเมือง




พีคแทรม
             แกลเลอรีประวัติความเป็นมาของพีคแทรมอยู่ที่สถานีรถรางด้านล่าง เป็นสถานที่รวบรวมเรื่องราวความเป็นมาของพีคแทรม อันเป็นมรดกตกทอดถึงคนรุ่นหลัง และประวัติศาสตร์ของฮ่องกง พีคแทรมเปิดให้บริการในฮ่องกงตั้งแต่ปี 1888 ผ่านเรื่องราวความเปลี่ยนแปลงของเมืองมาถึง 120 ปี แกลเลอรีแห่งนี้ ทำให้นักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงหวนนึกถึงความทรงจำเก่าๆ มากมาย และบอกเล่าเส้นทางสู่ความรุ่งเรืองของดินแดนไข่มุกแห่งตะวันออกให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ

                                  เลดี้ส์มาร์เก็ต


                                     
             ด้วยร้านรวงขนาดเล็กกว่า 100 ร้านที่ขายเสื้อผ้า เครื่องประดับ และของที่ระลึกในราคาย่อมเยา เลดี้ส์มาร์เก็ตบนถนนตุง ชอย เป็นแหล่งช้อปปิ้งทอดยาว 1 กิโลเมตรให้โอกาสคุณได้ฝึกฝนทักษะการต่อราคาอย่างเพลิดเพลิน ชื่อของตลาดแห่งนี้ มีที่มาจากการเป็นแหล่งขายสินค้าประเภทเสื้อผ้าและเครื่องประดับราคาถูกสำหรับสตรีทุกวัย อย่างไรก็ตาม ยังมีสินค้าอีกหลากหลาย เช่น นาฬิกา เครื่องสำอาง กระเป๋า เครื่องตกแต่งบ้าน CD และของกระจุกกระจิกให้เลือกซื้อ จนคุณสามารถเพลิดเพลินกับการชมตลาดได้โดยไม่จำเป็นต้องตั้งใจไปซื้อสินค้าใดๆ สักชิ้น

                                      หอนาฬิกา



             หอนาฬิกาเก่าสูง 44 เมตร สร้างขึ้นในปี 1915 โดยเป็นส่วนหนึ่งของสถานีรถไฟเกาลูน แคนตัน สถานีซึ่งเคยคับคั่งไปด้วยผู้คนแห่งนี้ได้เลิกให้บริการไปนานแล้ว แต่หอนาฬิกาที่สร้างจากอิฐสีแดงและหินแกรนิตยังถูกเก็บรักษาไว้ และปัจจุบันได้รับการประกาศเป็นอนุสรณ์สถาน ที่ย้ำเตือนความทรงจำอันสง่างามของยุคเครื่องจักรไอน้ำ และยังเป็นสัญลักษณ์ที่น่าจดจำสำหรับผู้อพยพชาวจีนนับล้านคนซึ่งเดินทางผ่านสถานีแห่งนี้เพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ ไม่เพียงแต่ในฮ่องกง แต่ยังรวมถึงส่วนอื่นๆ ของโลกผ่านท่าเรือฮ่องกงด้วย


                                                                      ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์






ฮ่งกงดิสนีย์แลนด์ --  กริซลีย์ กัลช
            กริซลีย์ กัลชพานักท่องเที่ยวโลดแล่นสู่ประสบการณ์แปลกใหม่และไม่ซ้ำใคร ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นสำหรับดิสนีย์แลนด์ฮ่องกงโดยเฉพาะ อย่าพลาด “Runaway Mine Cars” แห่งเทือกเขาบิ๊กกริซลีย์ และออกเดินทางแบบกระเจิดกระเจิงไร้การควบคุมท่ามกลางบรรยากาศป่าเขาอันน่าทึ่งและน่าตื่นเต้น มาร่วมสนุกสุดหรรษาแบบเปียกโชกในหุบเขาธารน้ำแข็ง และจบการเดินทางสำรวจของคุณด้วยขบวนคาราวานการแสดงโชว์ต้อนรับสู่หุบเขากริซลีย์ พร้อมสนุกไม่รู้จบกับการถ่ายรูปในดินแดนคาวบอยตะวันตก คำเตือน! โปรดระวังหมีกริซลีย์จอมซุกซนและกลน้ำที่คุณจะคาดไม่ถึง
ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ – ทอยสตอรี่แลนด์
             ทอยสตอรี่แลนด์,เป็นอาณาจักรความสนุกล่าสุดของฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ พิเศษเฉพาะในเอเชียเท่านั้น เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ไม่รู้ลืมแก่นักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย ร่วมเล่นสนุกกับเหล่าตุ๊กตาจากภาพยนตร์แอนนิเมชันที่ท่านชื่นชอบอย่าง ทอยสตอรี่ พร้อมสำรวจสนามหลังบ้านของแอนดี้ที่เต็มไปด้วยของเล่นชิ้นเล็กๆ แต่กลับมีขนาดใหญ่โตจนราวกับเราตัวเล็กนิดเดียว RC Racer* รถบังคับคันโปรดที่เร็วที่สุดของแอนดี้จะทำให้อะดรีนาลีนสูบฉีดในขณะที่คุณโลดแล่นไปพร้อมความตื่นเต้นหวาดเสียวตามรางรถไฟเหาะรูปตัว U สูง 27 เมตร เข้าร่วมผจญภัยเหาะทะยานสูงเสียดฟ้ากับ Toy Soldier Parachute Drop และระเบิดเสียงหัวเราะกับการวิ่งวนกลิ้งไปกลิ้งมาของเจ้าหมาสลิงกี้ตัวป่วนใน Slinky Dog Spin*
สนุกไม่รู้จบตั้งแต่เช้าถึงค่ำ
             ยังมีความทรงจำแสนวิเศษอีกมากมายรอครอบครัวของคุณอยู่ในฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ ที่ที่คุณจะได้ออกเดินทางไปกับ 4 อาณาจักรแห่งความสนุกที่เต็มไปด้วยเวทมนต์ ได้แก่ เมนสตรีท ยูเอสเอ, แฟนตาซีแลนด์, แอดเวนเจอร์แลนด์ และทูมอโรว์แลนด์ การแสดงที่ต้องชม ได้แก่ ขบวนพาเหรด Flights of Fantasyซึ่งจะพาคุณเหินฟ้า ไปกับงานฉลองสุดเหวี่ยง นำโดยเหล่าตัวการ์ตูนดิสนีย์ที่คุณชื่นชอบร้องรำทำเพลงไปตามถนน Main Street USA Mickey's PhilharMagic ตัวการ์ตูนเอกโดนัล ดั๊กจะนำช่วงเวลาแห่งความทรงจำของภาพยนตร์แอนนิเมชันของดิสนีย์กลับมาชีวิตอีกครั้งในแบบ 3 มิติ The Golden Mickeys การแสดงดนตรีสไตล์บรอดเวย์นำโดยมิกกี้และสหายของเขา นอกจากนี้ยังมี Fantasy Gardens การปรากฏตัวอย่างเหนือความคาดหมายของมิกกี้ มินนี่ และกู๊ฟฟี่ เพื่อทักทายนักท่องเที่ยว อย่าลืมเตรียมกล้องและสมุดขอลายเซ็นของคุณเอาไว้ให้พร้อมล่ะ!
             ถ้าคุณต้องการความตื่นเต้นและเสียงหัวเราะในอวกาศ เชิญกระโดดขึ้นนั่งรถหรรษา Space Mountain หรือช่วยบัซ ไลท์เยียร์ต่อสู่กับเหล่าเอเลี่ยนใน Buzz Lightyear Astro Blasters และนั่งเรือที่ it's a small world เพื่อเดินทางข้ามโลกหลากสีซึ่งคุณจะได้พบกับตุ๊กตาเคลื่อนไหวในชุดสีสันสดใสกว่า 100 ตัว
           โดยสารไปกับรถไฟดิสนีย์แลนด์ Disneyland Railroad เพื่อเที่ยวชมไปรอบสวนแบบสบายๆ หรือเรียนรู้เคล็ดลับการวาดมิกกี้เมาส์และบรรดาสหายของเขาใน Animation Academy และอย่าลืมแวะไปดูการแสดงพลุและดอกไม้ไฟ Disney in the Stars Fireworks ในเวลากลางคืนด้วย
             นอกจากนี้ ยังมีโรงแรมที่ตกแต่งในแบบดิสนีย์ให้คุณได้พักผ่อนหลังสนุกมาทั้งวันอีกด้วย เอร็ดอร่อยกับบุฟเฟต์นานาชาติเลิศหรูพร้อมกับตัวการ์ตูนดิสนีย์ และจับตามองเจ้ากู๊ฟฟี่ที่คอยแวะเวียนมาแช่น้ำแถวๆ สระว่ายน้ำของโรงแรม อย่าลืมวางแผนการเที่ยวผจญภัยแสนสนุกเช่นนี้ไว้ในโปรแกรมวันหยุดพักผ่อนของคุณ!
กิจกรรมพิเศษในรอบปี
             ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์เฉลิมฉลองทุกเทศกาลโดยมีการแสดงและความบันเทิงต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งออกแบบมาสำหรับงานเทศกาลของจีนและของตะวันตก เช่น งานฉลองตรุษจีน ฮัลโลวีน คริสต์มาส และกิจกรรมในฤดูร้อนอื่นๆ
ฟาสต์พาส
             บริการฟาสต์พาสของดิสนีย์จะช่วยจองคิวในแถวให้คุณในขณะที่คุณยังคงเพลิดเพลินกับกิจกรรมอื่นของสวนสนุก โดยคุณสอดบัตรเข้าสวนสนุกลงในสถานีฟาสต์พาสของดิสนีย์ ณ จุดที่เข้าร่วมกิจกรรม คุณจะได้รับกำหนดเวลากลับมาเล่น จากนั้นคุณสามารถไปที่อื่นก่อน และกลับมาเมื่อถึงเวลาของคุณ

                                                 จิมซาโจ่ยพรอมเมอนาด


             เริ่มเดินจากหอนาฬิกาสมัยอาณานิคม และเรื่อยไปจนถึงฮุงฮอม ทอดน่องไปตามจิมซาโจ่ย พรอมเมอนาด ผ่านศูนย์วัฒนธรรมฮ่องกง พิพิธภัณฑ์อวกาศฮ่องกง พิพิธภัณฑ์ศิลปะฮ่องกง และ อะเวนิว ออฟ สตาร์ และเช่นเดียวกันกับเหล่านักดูนกและคนชอบถ่ายภาพส่วนใหญ่ที่พรอมเมอนาด สายตาของคุณจะถูกดึงไปทางทิศใต้สู่ภาพภูมิประเทศและสถาปัตยกรรมที่น่าประทับใจของบรรดาตึกระฟ้าบนเกาะฮ่องกงซึ่งทอดยาวอยู่เหนือท้องน้ำของ อ่าววิตอเรีย



                                                  โอเชี่ยนปาร์คฮ่องกง



             โอเชี่ยนปาร์คฮ่องกงเปิดในปี 1977 เป็นสวนสนุกสัตว์ทะเลระดับโลก มีการแสดงเกี่ยวกับสัตว์ เครื่องเล่นน่าหวาดเสียว และโชว์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวได้รับความสนุุกไปพร้อมๆ กับความรู้และการอนุรักษ์ธรรมชาติ สวนสนุกแห่งนี้ตั้งอยู่ทางใต้ของเกาะฮ่องกง ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 870,000 ตารางกิโลเมตร  พื้นที่เดอะวอเตอร์ฟร้อน และเดอะซัมมิทเชื่อมต่อกันด้วยรถกระเช้าไฟฟ้าและรถรางโอเชี่ยนเอ็กซ์เพรส
Polar Adventure สำรวจขั้วโลกเหนือและใต้ภายในหนึ่งวัน
             การผจญภัยในขั้วโลกเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจใหม่ล่าสุดของโอเชี่ยนปาร์ค คุณจะได้สำรวจขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ ตั้งแต่ความสนุกรื่นเริงของการนั่งแคร่เลื่อนหิมะ ไปจนถึงความมหัศจรรย์ที่ได้พบกับคิงเพนกวินแบบใกล้ชิด นอกจากนี้ คุณยังจะได้เห็นสิงโตทะเลแปซิฟิกเขึ้ยวยาว แมวน้ำจุด จิ้งจอกอาร์กติก นกฮูกหิมะ และสัตว์พิเศษอื่นๆ อีกมากมาย และเมื่อคุณรู้สึกหิว ร้านอาหารทักซิโดส์มีบริการอาหารว่าง พร้อมชมวิวของเพนกวินกว่า 70 ตัวเล่นหยอกล้อกันอย่างสนุกสนานบนพื้นน้ำแข็ง
Old Hong Kong ฟื้นคืนความทรงจำที่ไม่เคยเก่าแม้กาลเวลาล่วงเลย!
             ฮ่องกงในอดีต นำวัฒนธรรมอันเป็นแบบฉบับของฮ่องกงในยุคทศวรรษที่ 1950, 1960 และ 1970 ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ดื่มด่ำกับแสงสีเสียงของวันคืนเก่าๆ บนรถรางเฮอริเทจแทรม! ต้องมนต์สะกดของสีสันและจังหวะชีวิตบนนถนนและทัศนียภาพในสมัยเก่าที่สร้างจำลองขึ้นอย่างสมจริง เดินทางเข้าไปในภาพของคืนวันเก่าๆ อย่าลืมเลือกซื้อของที่ระลึกและของสะสมโบราณเพื่อเป็นเครื่องเตือนความทรงจำในอดีต!
Thrill Mountain
             ในโซนนี้ นักท่องเที่ยวสามารถห้อยตัวเหนือหน้าผาอยู่บนรถไฟเหาะที่ไม่มีพื้น สร้างความหวาดเสียวจนขนหัวลุกสมเครื่องเล่นอย่าง Hair Raiser หรือจะตีลังกากลับหัวในขณะที่กวัดแกว่งอยู่บน The Flash ทะยานไปกับ The Aviator เพื่อสัมผัสความรู้สึกของการโบยบิน ก่อนที่จะมากระเด้งกระดอนไปมาบนรถบั๊มพ์มหาสนุก และอย่าออกจากจากโซนนี้ถ้ายังไม่ได้ลองนั่ง Rev Rooster ขบวนรถความเร็วสูงที่เปี่ยมไปด้วยพลังเต็มขีดพิกัด
Rainforest
             กระโจนขี้นมาบนแพ และดำดิ่งสู่โลกที่เต็มไปด้วยพืชไม้นานาพรรณ ฟังเสียงเซ็งแซ่ของป่าฝนเขตร้อน  และสังเกตรอบๆ ตัวคุณให้ดี เพราะในการเดินทางนี้ คุณจะได้พบกับสัตว์หลายชนิดที่น่าหลงใหลที่สุดในโลก! เฝ้าดูพฤติกรรมของลิงที่เล็กที่สุดในโลก ลิงปิกมี่มาร์โมเซ็ต หรือดูสัตว์แปลกๆ ที่น่าอัศจรรย์ เช่น ตัวคาปีบาร่า ซึ่งเป็นสัตว์ฟันแทะที่ตัวใหญ่ที่สุดในโลก และตัวคินคาจู รวมถึงนกกรีนอะราคารี ซึ่งเป็นนกทูแคนที่ตัวเล็กที่สุดในโลก
Aqua City
            อควาซิตี้เป็นพื้นที่สวนสนุกทางทะเลระดับโลกที่จะให้นิยามใหม่ของประสบการณ์โลกใต้น้ำของคุณ ที่นี่คุณจะได้รับชม Symbio การแสดงแสดงสีเสียงที่ใช้ม่านจอน้ำ 360 องศาเป็นแห่งแรกของโลก คุณยังสามารถออกเดินทางสำรวจเข้าไปใน Grand Aquarium ซึ่งมีปลามากกว่า 400 สายพันธุ์เป็นจำนวนถึง 5,000 ตัวและสัตว์ทะเลที่น่าทึ่งอื่นๆ อีกมากมาย เฝ้าดูสัตว์เหล่านี้แหวกว่ายในน้ำจากโดมอควาเรียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดถึง 5.5 เมตร หรือจะดูผ่านบานกระจกยักษ์ขนาด 8x13 เมตรก็ได้ และที่พลาดไม่ได้คือการลิ้มรสชาติความอร่อยในร้านอาหารแห่งแรกในฮ่องกงที่จัดให้คุณรับประทานอาหารท่ามกลางบรรยากาศแห่งอควาเรียมที่ Neptune's Restaurant!
Amazing Asian Animals
             ที่โซน Amazing Asian Animals จัดแสดงเกี่ยวกับสัตว์ของเอเชียบางชนิดที่หายากที่สุด ค้นพบเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์ท้องถิ่นที่มีค่าบางชนิดของเอเชีย เช่น แพนด้ายักษ์ แพนด้าแดง ซาลามานเดอร์ยักษ์ของจีน และจระเข้จีน ที่โซนการผจญภัยกับแพนด้ายักษ์ แล้วคุณจะเพลิดเพลินไปกับการเรียนรู้ไปไม่จำเจ ชมการจัดแสดงปลาทองที่น่าตื่นตาตื่นใจที่นิทรรศการ Goldfish Treasures หรือไปดูนกหลากสีสัน และนากทะเลเอเชียจอมซุกซนที่หมู่บ้านแพนด้า  ยังมีการจัดแสดงที่น่าสนใจอื่นๆ อีกเช่น การจัดแสดงแมงกระพรุนทะเล Sea Jelly Spectacular และไม่ควรพลาดเครื่องเล่นต่างๆ เช่น The Abyss Turbo Drop ที่จะพาคุณดิ่งลงสู่เหวมรณะ หรืออกสั่นขวัญแขวนบนรถไฟเหาะ Mine Train และดูโชว์ที่ Ocean Theatre ด้วย  ในระหว่างเทศกาลเฉลิมฉลอง โอเชี่ยนปาร์คฮ่องกงจะจัดกิจกรรมพิเศษ เช่น งานฮัลโลวีนแบช ซึ่งเป็นงานปาร์ตี้ฮัลโลวีนที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย และกิจกรรมการเล่นน้ำซัมเมอร์สแปลช
             โอเชี่ยนปาร์คฮ่องกงมุ่งมั่นจะส่งเสริมและสนับสนุนการอนุรักษ์สัตว์ในฮ่องกงและทั่วทั้งเอเชียรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายบัตรเข้าชมและสินค้าบางรายการจะบริจาคเข้ามูลนิธิการอนุรักษ์โอเชี่ยนปาร์ค ฮ่องกง เพื่อสนับสนุนโครงการอนุรักษ์สัตว์ป่า


                                                               ตลาดกลางคืนเทมเปิลสตรีท


             เมื่อถึงยามราตรี ผู้ขายต่างจัดวางสินค้าของพวกเขา และนักร้องโอเปร่าและหมอดูก็เริ่มปรากฏกาย ขอต้อนรับสู่ตลาดกลางคืนเทมเปิลสตรีทที่คึกคัก ตลาดนัดริมถนนที่เป็นที่นิยมแห่งนี้ตั้งชื่อวัดทินโห่ว ซึ่งตั้งอยู่ที่ตรงกลางของถนนหลัก อยู่ท่ามกลางบรรยากาศท้องถิ่นมากจนถูกใช้เป็นฉากในภาพยนตร์ดังๆ หลายเรื่อง

            นักช้อปเลือกเฟ้นและต่อรองราคาสินค้าต่างๆ ที่มีขายในตลาด ตั้งแต่ เครื่องประดับ อุปกรณ์ชงชา อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ นาฬิกา เสื้อผ้าสำหรับคุณผู้ชาย หยก และของโบราณต่างๆ นอกจากนี้ยังมีอาหารเลิศรส เช่น ข้าวอบหม้อดิน อาหารทะเล บะหมี่ และของทานเล่นอื่นๆ ให้คุณได้ลิ้มลอง
             ในตลาดกลางคืนเทมเปิลสตรีทยังมีการแสดงและงานฉลองที่ปฏิบัติกันมายาวนานในตลาดของชาวจีนทั่วไปอีกด้วย โดยกิจกรรมทั้งหมดจัดในเวลากลางคืน

ศูนย์การประชุมและนิทรรศการฮ่องกง

(และโกลเด้น โบฮิเนีย สแควร์)


ศูนย์การประชุมและนิทรรศการฮ่องกง (และโกลเด้น โบฮิเนีย สแควร์)

            ศูนย์การประชุมและนิทรรศการฮ่องกงที่โดดเด่นด้วยม่านกระจกขนาดใหญ่และหลังคาอะลูมิเนียมขนาด 40,000 ตารางเมตรที่ก่อสร้างอย่างแม่นยำเพื่อสะท้อนเสียงนกทะเลที่บินขึ้นสู่ฟ้า ถือเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญบนเส้นขอบฟ้าของเกาะฮ่องกง อาคารนี้เป็นที่รู้จักทั่วโลกในชื่อ HKCEC ที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าอ่าว ใช้เทคนิคการก่อสร้างจากบนลงล่างเพื่อแก้ปัญหาความท้าทายเรื่องที่ดินอันจำกัด เทคนิคนี้จัดเป็นความก้าวหน้าขั้นสูงจนได้รับรางวัลจากหลายอุตสาหกรรมแฟนภาพยนตร์ของแจ็คกี้ ชาน อาจจดจำได้ว่าอาคารนี้เป็นฉากสุดท้ายอันยิ่งใหญ่ในภาพยนตร์เรื่อง New Police Story แต่อาคารนี้ยังใช้สำหรับประกอบงานพิธีที่ตราตรึงใจมากว่าในภาพยนตร์เรื่องนั้นมากมายนัก นั่นคือ งานพิธีการส่งมอบคืนเกาะฮ่องกง เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 1997 ซึ่งบันทึกช่วงเวลาที่เจ้าอาณานิคมอังกฤษได้ส่งมอบเกาะคืนแก่สาธารณะรัฐประชาชนจีนและเขตปกครองพิเศษฮ่องกงไว้ในประวัติศาสตร์HKCEC มีชื่อเสียงไปทั่วโลกว่าเป็นศูนย์การจัดประชุมและนิทรรศการในระดับโลก และได้รับการจัดอันดับให้เป็นศูนย์การจัดประชุมและนิทรรศการที่ดีที่สุดในเอเชียเป็นครั้งที่ 9 โดยสมาคมอุตสาหกรรมในปี 2012โกลเด้น โบฮิเนีย สแควร์            โบฮิเนียเป็นสัญลักษณะประจำฮ่องกง รูปปั้นโบฮิเนียที่เจริญรุ่งเรืองชั่วนิรันดร์ที่ตั้งอยู่บริเวณเอ็กซ์โป พรอมเมอนาดทำให้คนทั่วไปเรียกสถานที่แห่งนี้ว่าโกลเด้น โบฮิเนียสแควร์ เป็นรูปปั้นซึ่งรัฐบาลกลางได้ส่งให้เป็นของขวัญแก่ฮ่องกง เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการส่งมอบคืนในปี 1997 อันเป็นวโรกาสที่มีความสำคัญยิ่งสำหรับประเทศซึ่งมี ประชากรมากที่สุดในโลกแห่งนี้ และยังเป็นเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ที่สำคัญของศตวรรษที่ 20 ด้วย           
         ปัจจุบัน สถานที่แห่งนี้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนแวะเวียนมาเป็นจำนวนมาก โดยเข้ามาถ่ายภาพอนุสาวรีย์การรวมประเทศที่มีแผ่นจารึกลายมือของท่านประธานาธิบดีเจียง เจ๋อหมิน ผู้เป็นตัวแทนประเทศจีนในพิธีการส่งมอบเกาะ นักท่องเที่ยวยังมีโอกาสได้ชื่นชมพิธีการเชิญธงขึ้นสู่ยอดเสา ซึ่งจัดขึ้นทุกวันอย่างเอิกเกริกและเพื่อเป็นสัญลักษณ์รำลึกถึงเหตุการณ์นี้ โดยมี อ่าววิคตอเรียเป็นฉากหลัง


                                                          พระใหญ่และอารามโป๋หลิน


             เดิมทีอารามโป๋หลินเป็นเพียงอารามที่อยู่ห่างไกล และหลบลี้ผู้คนด้วยทัศนียภาพที่เป็นป่าและภูเขา แต่อารามนี้ได้มีชื่อเสียงและปรากฏอยู่บนแผนที่โลกเมื่อมีการสร้างพระพุทธรูปเทียนถานที่มีความพิเศษ (มีชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่าพระใหญ่) ในปี 1993 พระพุทธรูปสำริดอันสง่างามนี้มีความสูง 34 เมตรและหันพระพักตร์ไปทางเหนือเพื่อเฝ้าดูชาวจีน เป็นที่ดึงดูดพุทธศาสนิกชนจากทั่วทั้งเอเชีย
             กิริยาต่างๆ ขององค์พระ ได้แก่ พระเนตร พระโอษฐ์ การเอียงพระเศียร และพระหัตถ์ขวายกขึ้นให้พรแก่คนทั่วไป ได้ทำให้องค์พระใหญ่มีลักษณะอ่อนโยนและสง่างามอย่างลุ่มลึก โดยต้องใช้เวลาการก่อสร้างถึง 12 ปี หากคุณอยากจะสำรวจพระพุทธรูปที่โดดเด่นนี้อย่างใกล้ชิดขึ้น ให้ขึ้นบันไดไปอีก 268 ขั้น และยังจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพของทิวเขาและทะเลจากบริเวณฐานขององค์พระด้วย
            ตรงข้ามพระพุทธรูป เป็นที่ตั้งของอารามโป๋หลิน ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธ์ของชาวพุทธที่สำคัญที่สุดของฮ่องกง และถูกเรียกว่าเป็น "โลกของพุทธศาสนิกชนในตอนใต้" เป็นสถานที่จำวัดของพระสงฆ์ที่เคร่งครัด อารามแห่งนี้เต็มไปด้วยภาพของเกี่ยวกับพุทธศาสนาที่มีสีสันสวยงาม และรื่นรมย์ด้วยเสียงนกร้องและกลิ่นหอมของดอกไม้ในสวน คุณยังสามารถกระตุ้นความอยากอาหารได้ที่ร้านอาหารมังสวิรัติที่เป็นที่นิยมในอารามด้วย


ดารานักร้องมาเก๊า
เอลล่า




เรนนี่ หยาง



เซียวเจิ้งเถิง



เกยหลุนเหมย








สถานที่ท่องเที่ยวในมาเก๊า

วัดอาม่า (A-Ma Temple) วัดนี้คนไทยรู้จักกันดีในชื่อว่า “ศาลเจ้าแม่ทับทิม” เป็นวัดเก่าแก่คู่เมืองมานาน เล่าขานกันว่านานมาแล้วมีสาวจีนที่ชื่อหลิงม่า ต้องการโดยสารเรือ แต่ไม่มีเรือลำไหนให้ความช่วยเหลือ จนมีเพียงชาวประมงกับเรือเล็กๆ ลำหนึ่งเท่านั้นที่ยอมให้หลิงม่าอาศัยเดินทางไปด้วย ระหว่างทางเกิดพายุหนัก ทำให้เรือทุกลำแตกจมลงสู่ก้นทะเล ยกเว้นแต่เรือประมงเล็กๆ ลำที่หลิงม่าอาศัยเดินทางเท่านั้นที่ยังอยู่รอดปลอดภัย เมื่อเรือเข้าเทียบเกาะมาเก๊า หลิงม่า สาวน้อยก็ได้หายตัวไปอย่างปาฏิหาริย์ไร้ร่องรอย ชาวประมงจึงเชื่อว่าเธอคือเทพธิดาแห่งท้องทะเล ที่แปลงกายมาคุ้มครองชาวประมง จนทุกวันนี้ บรรดาชาวประมงก็ยังคงเซ่นไหว้ขอพรให้หลิงม่า หรืออาม่า คุ้มครองให้ปลอดภัยจากภัยพิบัติต่างๆ ก่อนที่จะออกเรือสู่ท้องทะเล และกลายมาเป็นศาลเจ้าแม่ทับทิม หรือวัดอาม่าในทุกวันนี้ สำหรับผู้ที่ต้องการขอพรให้ไปหมุนลูกแก้วในปากสิงโตด้านหน้าวัดไปทางขวา 3 ครั้ง พร้อมกล่าวคำอธิษฐาน เชื่อกันว่าจะสมหวังตามคำขอ นอกจากนี้คำว่า A-Ma-Goa ที่หมายถึง อ่าวของอาม่านั้น ยังเป็นที่มาของชื่อเมืองมาเก๊า และเพี้ยนมาเป็นมาเก๊าในวันนี้นั่นเอง

โบสถ์เซนต์ปอล (Ruins of Saint Paul Church) โดด เด่นเป็นสง่าจนกลายเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของมาเก๊า ที่ใครๆ ก็ต้องมาเข้าแถวยืนถ่ายรูปที่นี่กันทั้งนั้น โดยโบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ซึ่งถือเป็นโรงเรียนสอนศาสนาแห่งแรกของชาวตะวันตกในตะวันออกไกล ต่อมาเกิดเพลิงไหม้อย่างรุนแรงในปี ค.ศ. 1835 คงเหลือแต่ส่วนของอาคารด้านหน้าและได้บูรณะขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1991 ส่วนด้านหลังที่ถูกไฟไหม้ไปหมดนั้น ปัจจุบันสร้างขึ้นเป็นพิพิธภัณฑ์ทางศาสนาและประวัติศาสตร์ของมาเก๊าที่ควร ค่ากับการเข้าชม

 เมาท์ ฟอร์ท (Monte Fort) หรือป้อมมองเต และพิพิธภัณฑ์แห่งชาติมาเก๊า (Museum de Macau) ตั้งอยู่ติดกันกับโบสถ์เซนต์ปอล ด้วยชัยภูมิที่เป็นเนินเขาสูง จึงทำให้เหมาะกับการสร้างป้อมไว้สังเกตการณ์และป้องกันการรุกราน สร้างขึ้นมาตั้งแต่ ค.ศ. 1617 ปัจจุบันถูกรวบรวมไว้เป็นส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ แห่งชาติมาเก๊า ซึ่งนอกจากจะรวบรวมโบราณวัตถุต่างๆ มาจัดแสดงประวัติศาสตร์ของมาเก๊า ได้อย่างเป็นระบบระเบียบจากอดีตจนถึงปัจจุบันอย่างดีเยี่ยมแห่งหนึ่งแล้ว ยังเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่ดีที่สุดอีกด้วยเช่นกัน

ลานเซนาโด้ สแควร์ (Senado Square) เปรียบไปก็คล้ายๆ กับจัตุรัสใจกลางเมือง ที่จะทำให้เห็นภาพรวมของมาเก๊าได้ดีที่สุด เพราะนอกจากจะเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แล้ว ยังเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญด้วย รอบๆ ลานกว้างที่ปูกระเบื้องตกแต่งเป็นลายเกลียวคลื่นนั้น เรียงรายไปด้วยอาคารในแบบ ชิโน-โปรตุกีส และเป็นร้านค้าต่างๆ นับแต่ขายยาจีนไปจนถึงเสื้อผ้าทันสมัย นอกจากนี้ ลานเซนาโด้ สแควร์ ยังมีสถานที่สำคัญอยู่ 2 แห่งคือ โฮลี่ เฮาส์ ออฟ เมอร์ซี่ (Holy House of Mercy) อันเป็นสถาบันเก่าแก่ที่สุดในมาเก๊า สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16และโบสถ์เซนต์โดมินิค (Saint Dominic's Church) ที่เป็นสถาปัตยกรรมบาโร้ก (Baroque) อันหรูหราแบบยุโรป และได้รับการอนุรักษ์ให้เป็นพิพิธภัณฑ์ทางศาสนาให้ชาวคริสต์ได้มาศึกษาหา ความรู้ โดยรอบของลานเซนาโด้ สแควร์ ตั้งแต่ทางด้านใต้ เริ่มจากด้านหน้าอาคารลีอัล เซนาโด้ (Leal Senado) หรือหอประชุมเทศบาลมาเก๊าแห่งแรก และใช้งานต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ขึ้นมาทางเหนือความยาวร่วมกิโลเมตรนั้น นับเป็นย่านที่คึกคักขวักไขว่ทั้งกลางวันและกลางคืน จนมาจบที่เนินขั้นบันไดสูงไปสู่โบสถ์เซนต์ปอล

โบสถ์เซนต์ดอมินิก (Saint Dominic’s Church) สร้างขึ้นใน ค.ศ. 1587 โดยบาทหลวงนิกายดอมินิกันชาวสเปน ส่วนหอระฆังด้านหลังถูกปรับเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็ก แสดงงานอันเกี่ยวเนื่องกับศาสนา (Museum of Sacred Art) ที่น่าสนใจด้วยศิลปวัตถุกว่า 300 ชิ้น ถ้าไม่เดินซื้อของจนเพลินก็ควรแบ่งเวลาให้กับพิพิธภัณฑ์เหล่านี้ด้วย โดยโบสถ์แห่งนี้ตั้งอยู่ตรงกลางของลานเซนาโด้ สแควร์

เจ้าแม่กวนอิม (Kun Iam Statue) รูปปั้นเจ้าแม่
กวนอิมขนาดยักษ์ ที่ถนน ดร.ซุน ยัด เซ็น ซึ่งโปรตุเกสสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ เนื่องในโอกาสส่งมอบมาเก๊าคืนให้กับจีนเมื่อ 19 ธันวาคม ค.ศ. 1999 ซึ่งจะสวยงามด้วยแสงไฟส่องสว่างยามค่ำคืน
Macau Towerจัด เป็นหอคอยที่มีความสูงเป็นอันดับ 10 ของโลก ด้วยความสูง 338 เมตร ตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม เหมาะกับการขึ้นไปเดินท้าความบ้าบิ่นบนแผ่นกระจกใส Sky Walk X นอกหอคอยบนความสูง 233 เมตรที่เสียวได้ใจจริงๆ หรือสบายๆ หน่อยก็ไปนั่งจิบเครื่องดื่มพร้อมชมทิวทัศน์มาเก๊ายามค่ำคืนที่ระยิบระยับ ด้วยแสงไฟอลังการจากโรงแรม และคาสิโนที่ผุดขึ้นราวดอกเห็ด

แหล่งช้อปปิ้ง

นอกจากบริเวณลานเซนาโด้ สแควร์แล้ว ย่านขายสินค้าแบบแผงลอยที่ถูกใจชาวไทยก็น่าจะเป็นย่าน Rua de Sao Paulo และ Rua das Estalagens โดยให้เดินในถนน Guimarraes ซึ่งเป็นซอยเล็กๆ เชื่อมถนนทั้งสอง จะเป็นย่านของเก่า ร้านของชำ ร้านตัดเสื้อ ฯลฯ เรียงรายกันจนลานตา ควักกระเป๋าสตางค์แทบไม่ทันแต่ถ้าเป็นช่วงเย็นหลังอาหารไปจนดึกๆ ขอแนะนำให้ไปที่ Estrada do Repouso ซึ่งเป็นตลาดของพื้นเมืองยามค่ำสนุกตรงที่ได้ของถูกกว่าย่านอื่นถ้าต่อราคาเก่งๆ

ส่วน อีกด้านของ Avenida Almeida Riberiro จากช่วงถนน Rua do Dr. Soares ขึ้นไปบนเนินเขาด้านหลังหอประชุมเทศบาลมาเก๊า (Leal Senado) จนถึง 
Rua da Fecilidade ที่เรียกกันว่า "ถนนสายสำราญ" เลี้ยวขวาแล้วเดินตรงไป จะผ่านอาคารสีแดงหลังใหญ่หรือ Red Market ซึ่งเมื่อ 300 ปีก่อนย่านนี้แต่เดิมเป็นย่านบันเทิง อาทิ โรงน้ำชาที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ปัจจุบันอาคารเหล่านี้ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี และปรับเปลี่ยนเป็นภัตตาคารโปรตุเกส และร้านจำหน่ายของหวานและอาหารแห้ง ตลอดจนสินค้าพื้นเมืองของมาเก๊า

ย่าน Avenida Horta e Costa เหมาะสำหรับคนชอบเดิน เพราะเป็นถนนช้อปปิ้งที่ยาวมาก เริ่มต้นตั้งแต่ Red Market เรื่อยไปจนถึง สวนสาธารณะฟลอร่า
การ์เด้น ที่คลาคล่ำไปด้วยสินค้าตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันกล้องถ่ายรูป แถมยังต่อรองราคากันได้อย่างเต็มที่อีกด้วย

นอกจากนี้จากสวนพฤกษศาสตร์คาโมส (Camoes Garden Area) ยังสามารถเดินไปตาม Rua de Entre-Compos เข้าไปยังชุมชนเก่าของมาเก๊าอย่างบริเวณ Estrada do Repouso และ Rua da Barca ที่จะเต็มไปด้วยร้านค้าเล็กๆ และถ้าแรงเหลือเดินไปถึงโรงภาพยนต์ Alegria ก็จะพบกับสวรรค์น้อยๆ ของนักช้อปปิ้ง เพราะเป็นตลาดกลางคืนที่จำหน่ายอาหารนานาชาติและของกระจุกกระจิกต่างๆ และถ้าโชคดีก็จะมีการแสดงงิ้วเป็นของแถมอีกด้วย ข้อสำคัญอย่าลืมออมแรงไว้เดินหิ้วของกลับที่พักด้วยก็แล้วกัน

อาหารการกินที่มาเก๊า

          หนึ่งในเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของมาเก๊าก็หนีไม่พ้น “อาหารแมกกานิส” กับอาหารสไตล์ลูกผสมระหว่างตะวันออกและตะวันตก ที่ได้อิทธิพลมาจากโปรตุเกสที่มีให้เห็นอยู่ทั่วไปในมาเก๊า โดยอาหารแมกกานิสจานเด่น ก็ได้แก่ ไก่แอฟริกัน (Galinha a Africana) และปลาคอดกับกุ้งผัดพริก (Bacalhau and Macanese Chili Shrimps) ขณะที่อาหารจีนเจ้าถิ่นก็ไม่น้อยหน้า ปูผัดผงกะหรี่ กั้งทอดกระเทียม บะหมี่และเกี๊ยวน้ำ โดยเฉพาะที่ไม่ควรพลาดคือ เนื้อผัดวุ้นเส้นซอสสะเต๊ะที่ MGM Grand Macau นั้นอร่อยระดับขอท้าให้ลองด้วยเนื้อที่หมักจนนุ่มเปื่อยชนิดเข้าปากแล้วแยกไม่ออกเลยว่า อะไรเป็นวุ้นเส้นอะไรเป็นเนื้อ รวมไปถึง “หยำฉ่า” การจิบน้ำชายามบ่ายกับติ่มซำ หลังการเดินท่องเที่ยวมาตลอดวัน ก็เป็นการให้รางวัลกระเพาะและพักขาได้เป็นอย่างดี
           เรื่องรับประทานจะยังจบลงไม่ได้ ถ้ายังไม่ปิดฉากด้วยของหวานอันขึ้นชื่อของมาเก๊า ต้องไม่ลืมว่าอิทธิพลของโปรตุเกสทางด้านของหวานนั้นเลื่องลือ เพราะจะหอมหวานด้วยนม เนย และไข่ ขนมที่ขึ้นชื่อของมาเก๊าก็คือ คุกกี้อัลมอนด์ เหมาะสำหรับรับประทานกับน้ำชากาแฟร้อนๆ ที่ควรจะซื้อติดไม้ติดมือกลับมาเป็นของฝากก็คือ ขนมไข่ ที่หน้าตาเหมือนทองม้วนในบ้านเรา ซึ่งจะมีขายทั่วไปโดยเฉพาะแถวๆ ลานเซนาโด้ สแควร์ และถนน Rua de Felicidade แต่ที่เป็นดาวเด่นในด้านของหวานลูกครึ่งของมาเก๊า ก็ต้องยกให้ ขนมทาร์ตไข่ (Egg Tart) ที่ติดใจจนต้องให้คนไปสั่งจอง มารับประทานกันที่โรงแรมทุกวัน ด้วยแป้งหอมกรอบ

            ด้านนอกและมีไส้กลางเป็นครีมไข่ (ขาว) ข้นสีเหลืองทองหอมหวานมันกลมกล่อมจึงเป็นของฝากอีกอย่างที่ขาดไม่ได้ แต่เสียดายที่การมารับประทานที่ร้านตอนที่ครีมยังอุ่นหอมนั้น ได้รสชาติต่างกับตอนที่ขนมเย็นแล้วหลายช่วงตัว
ร้านที่โด่งดังก็เห็นจะมีอยู่สองเจ้าที่ลูกค้าแน่นขนัด ทั้งวัน คือ Lord Stow’s Bakery (1 Rua da Tassara, Coloane Town Square, Coloane, Macau โทร. (853) 2888 2534) บนเกาะโคโลอาน ที่ของแท้ต้องโรยผงซินนามอนด้วย และร้าน Margaret’s Café Nata บนเกาะมาเก๊า ซึ่งนับเป็นร้านที่มียอดขายขนมทาร์ตไข่สูงที่สุดแห่งหนึ่ง

ที่พักแนะนำ

            MGM Grand Macau โรงแรมสุดหรูระดับ 5 ดาว ใหญ่โต โอ่โถงและพร้อมพรั่งด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตระการตาด้วยโถงน้ำพุกลางลาน กับวิลล่าสไตล์โปรตุเกสโบราณ ประดับประดาด้วยงานประติมากรรมชิ้นเลิศจากจิตรกรเอกของโลก อย่าง Salvador Dali นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยความงดงามของห้องพักที่ออกแบบอย่างหรูหรา มองเห็นวิวทิวทัศน์และสีสันยามราตรีของมาเก๊าได้อย่างเต็มตา ยิ่งไปกว่านั้น ภายในตัวโรงแรมยังประกอบไปด้วยคาสิโน ร้านอาหาร และบาร์ที่มีมากถึง 12 แห่ง พร้อมด้วยสปาและ สระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่
              The Venetian Macao Resort Hotel (Estrada da Baia de N. Senhora da Esperanca, s/n, Taipa, Macao SAR, Macau) หรูหรา สง่างาม ด้วยการออกแบบที่ตั้งใจให้เป็นจุดหมายปลายทางที่เปี่ยมไปด้วยสีสันและเร้าใจ ที่สุดในเอเชีย กับความสะดวกสบายที่พร้อมปรนเปรอเหล่านักเดินทาง ด้วยห้องสวีตที่มีมากถึง 3,000 ห้อง มีเนื้อที่กว้างกว่า 70 ตารางเมตร ขณะที่ห้องน้ำหินอ่อนสไตล์อิตาลีก็ยกระดับความหรูหราขึ้นไปอีกขั้น พร้อมด้วยไฮไลต์สำคัญอย่างคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และแหล่งช็อปปิ้งกว่า 350 ร้านค้า ไม่ต่างอะไรกับที่ลาสเวกัส โดยมีเอกลักษณ์สำคัญอย่างเรือกอนโดลา โดดเด่นด้วยอาหารชั้นยอดหลากหลายระดับ พร้อมความบันเทิงที่คาดไม่ถึงอีกนับไม่ถ้วน
              Lisboa Hotel (2-4 avenida de lisboa, Macau) โรงแรมระดับ 5 ดาว ตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจของมาเก๊า บนถนนหลักของเมืองมาเก๊า สวยงามด้วยสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นพร้อมด้วยภัตตาคารขึ้นชื่อ 12 แห่ง และความบันเทิงตลอด 24 ชั่วโมง หนึ่งในสุดยอดโรงแรมคาสิโนในเอเชีย โรงแรมมีห้องพักและห้องสวีตให้บริการเกือบ 1,000 ห้อง แต่ละห้องตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูหรา และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยพร้อมมูล จากตัวโรงแรมเดินไปยังย่านจเซนาโด้สแควร์ประมาณ 300 - 500 เมตรเท่านั้น
              Ole London Hotel (Praca de ponte e horta, No 4-6, Macau) ทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่ใกล้ใจกลางของมาเก๊า จึงทำให้ Ole London Hotel เป็นตัวเลือกชั้นดีสำหรับการสัมผัสความเป็นมาเก๊า ด้วยตัวโรงแรมที่ออกแบบและตกแต่งในสไตล์จีน แต่ก็เป็นโรงแรมเล็กๆ ที่สะดวกสบายไม่น้อย แถมยังสะอาดสะอ้าน และอยู่ใกล้แลนด์มาร์กอย่างเซนาโด้สแควร์เพียง 10 นาทีเท่านั้น

การขอ Visa

             มาเก๊ายินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกชาติทุกภาษาเข้าสู่มาเก๊า ดังนั้น นักท่องเที่ยวเกือบทุกชาติศาสนาจึงได้รับการยกเว้นไม่ต้องทำวีซ่า ยกเว้นบางประเทศเท่านั้น สำหรับนักท่องเที่ยวสัญชาติไทย สามารถเดินทางเข้ามาเก๊าโดยไม่ต้องทำวีซ่า และสามารถ พำนักอยู่ในมาเก๊าได้คราวละไม่เกิน 30 วัน ข้อมูลเรื่องวีซ่าดูเพิ่มเติมได้ที่ 

เทศกาลที่น่าสนใจในมาเก๊า

           เทศกาลตรุษจีน ราวปลายเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ เป็นช่วงเวลาของการเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน ตลอดทั้ง 10 วัน ตามท้องถนนจะเต็มไปด้วยดอกไม้สีสันสดใส มีขบวนแห่เชิดสิงโตและเสียงกลองรัวดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ ครั้นเวลากลางคืนถนนทุกสายต่างประดับประดาไปด้วยโคมไฟระยิบระยับ ในช่วงเทศกาลนี้ชาวมาเก๊าจะเดินทางไปกราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคล "Kung Hei Fat Choi" จะใช้เป็นคำทักทายเพื่อส่งความสุขและความปรารถนาดีให้แก่กัน นอกจากนี้ผู้อาวุโสจะมอบอั่งเปา หรือ Laisi ให้กับญาติผู้น้อง โดยใน Laisi หรืออั่งเปาจะใส่เงินเอาไว้แทนสัญลักษณ์ของโชคลาภ และความเจริญรุ่งเรืองมั่งคั่ง ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของชาวจีน

Senhor dor Passos คณะผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกจะสวมชุดคลุมยาวสีม่วง แล้วมารวมตัวกันเพื่อตั้งขบวนแห่รูปปั้นพระเยซูคริสต์แบกไม้กางเขน ในเทศกาล Procession of the Passion of our Lord, The God Jesus โดยขบวนแห่จะเริ่มเดินจากโบสถ์เซนต์ออกัสติน ไปยังโบสถ์ Cathedral ท่ามกลางฝูงชนคับคั่งที่มาร่วมพิธีด้วยความนับถือและศรัทธาในองค์พระเยซู

เทศกาลอีสเตอร์ อีส เตอร์เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาพิเศษของผู้นับถือศาสนาคริสต์ ระหว่างเดือนมีนาคม - เมษายนของทุกปี ร้านค้าต่างๆ จะนำขนมและของหวานอย่างช็อกโกแลต และขนม Folar หรือขนมเค้กไข่ของชาวโปรตุเกส ออกมาวางขายกันทั่วไปเพื่อให้ได้เลือกซื้อหาเป็นของขวัญมอบให้กัน

Macau Arts Festival จัด ขึ้นทุกปีในช่วงเดือนมีนาคม - เมษายน ภายในงานจะรวบรวมผลงานศิลปะทุกแขนง ไม่ว่าจะเป็นศิลปะประจำชาติอย่าง อุปรากรจีน ดนตรี ละคร ศิลปการแสดงจากนานาชาติ นิทรรศการศิลปะและงานหัตถกรรมต่างๆที่หาชมได้ ไม่ง่ายนัก

เทศกาลเช็งเม้ง ในเดือนเมษายน ครอบครัวชาวจีนจะเดินทางไปทำความสะอาดสุสาน พร้อมทั้งจัดเตรียมเทียนหอมและเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ สำหรับกราบไหว้บูชาบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ ภายหลังจากทำความสะอาดสุสานและทำพิธีการกราบไหว้บรรพบุรุษเสร็จแล้ว ก็ถือโอกาสใช้ช่วงเวลานี้เป็นการพักผ่อนและสังสรรค์ในครอบครัวไปด้วยพร้อม กัน

Birthday of Pak Tai งานประเพณีพื้นเมือง อีกหนึ่งสีสันในเทสกาลทางศาสนาที่จัดขึ้นในเดือนเมษายน บนเกาะไทปา ที่วัด Pak Tai จะจัดให้มีการแสดงอุปรากรจีนที่บอกเล่าถึงตำนานของ Pak Tai เทพยดาผู้เป็นเลิศและนักรบผู้กล้าแห่งดินแดนทางตอนเหนือ

A-Ma Festival เทศกาลประเพณีอันยิ่งใหญ่นี้จะจัดขึ้นปีละครั้งในเดือนเมษายน เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีและความเลื่อมใสศรัทธาใน อาม่า องค์เทพธิดาแห่งท้องทะเล บริเวณด้านหน้าวัดอาม่าจะมีการแสดงเชิดสิงโตและระบำต่างๆ สีสันสดใสตระการตา ดูมีชีวิตชีวามากเป็นพิเศษ

เทศกาลสรงน้ำพระพุทธรูป เดือนพฤษภาคม วัดต่างๆ ทั่;ทุกหนแห่งของมาเก๊า จะมีการทำพิธีสรงน้ำพระพุทธรูป เพื่อทำความสะอาดพระพุทธรูปให้มีความผ่องแผ้วงดงามน่าเลื่อมใส

เทศกาล Drunken Dragon การ แสดงประจำท้องถิ่นที่มีสีสันและแตกต่างไปจากงานประเพณีอื่นๆ ของจีน ตามประเพณีจะมีการเต้นรำในท่วงท่า หรือลีลาของคนเมาไปพร้อมกับการเชิดหัวมังกรไม้แกะสลัก กล่าวกันว่าประเพณีนี้เกิดขึ้นในอาณาจักรกวางสีในสมัยของราชวงศ์ชิง โดยสมาคมชาวประมงจะเป็นผู้จัดงานเทศกาลนี้ขึ้นทุกปี ในเดือนพฤษภาคม

Tam Kong Festival เทศกาลเฉลิมฉลองเนื่องในวันเกิดของเทพเจ้า Tam Kong ซึ่งชาวประมงเคารพนับถือรองลงมาจากอาม่า ด้วยเป็นเทพผู้คอยดูแลสภาพดินฟ้าอากาศและช่วยปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บ ระหว่างเทศกาลจะมีการจุดประทัดดังก้องไปทั่วบริเวณวัด Tam Kong นอกจากนี้ยังมีการแสดงอุปรากรจีน และขบวนแห่เชิดสิงโตอย่างสนุกสนาน

Procession of Our Lady Fatima เหล่าสานุศิษย์ผู้มีความเลื่อมใสศรัทธาในองค์พระแม่ฟาติมา จะร่วมกันจัดขบวนแห่พระแม่ฟาติมา ขึ้นในวันที่ 13 เดือนพฤษภาคมของทุกปี ขบวนแห่ดังกล่าวจะเริ่มต้นจากโบสถ์ St.Domingos ไปยังโบสถ์เพนญ่า เพื่อทำพิธีระลึกถึงปาฏิหาริย์ขององค์พระแม่ฟาติมาในโปรตุเกส เมื่อปี ค.ศ.1917

เทศกาลแข่งเรือมังกร ถือ เป็นประเพณีเก่าแก่ทีสืบทอดมาจากจีน จัดขึ้นเพื่อระลึกถึง Wat Yuen กวีผู้ยิ่งใหญ่และขุนนางชั้นผู้ใหญ่ของก๊กฉู่ในสมัยจ๊านก๊ก เทศกาลแข่งขันเรือมังกรในมาเก๊าจะจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายน ซึ่งตรงกับวันที่ 5 เดือน 5 ท้องน้ำบริเวณทะเลสาบ Nam Van จึงเต็มไปด้วยสีสันของเรือจากทั่วสารทิศที่ร่วมลงแข่งขัน เพิ่มสีสันให้สายน้ำดูมีชีวิตชีวา

เทศกาลไหว้เจ้า เพื่อ เป็นการรำลึกถึงวิญญาณของบรรพบุรุษและภูติผีต่างๆ ตามประเพณีชาวจีนจะพับกระดาษแล้วเผาตรงบริเวณท้องถนน หรือทางเข้าประตูบ้าน ซึ่งในการทำพิธีบูชาหรือบวงสรวงดังกล่าวจะมีการตระเตรียมอาหารและผลไม้ชนิด ต่างๆ ไว้ด้วย

เทศกาลไหว้พระจันทร์ การเฉลิม ฉลองเทศกาลดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 ตามปฏิทินทางจันทรคติ ระหว่างเทศกาลนี้จะมีการทำขนมไหว้พระจันทร์ เพื่อนำไปมอบให้กับเพื่อนสนิทและคนคุ้นเคย โดยขนมดังกล่าวทำมาจากไข่และส่วนผสมต่างๆ ที่กวนจนเข้ากัน พอถึงเวลากลางคืนทุกคนจะออกไปเฝ้าดูพระจันทร์ และทำพิธีบูชาเทพเจ้าด้วยโคมไฟที่ประดับประดาไว้อย่างงดงามตระการตา เทศกาลนี้จะจัดขึ้นที่บริเวณถนน Pria Grande ,Nam Van Lake ชายหาดฮักซาและหาดชอกวาน ในเมืองโคโลอาน

เทศกาลการแสดงดนตรีนานาชาติ ช่วง เดือนกันยายน - ตุลาคมของทุกปี มาเก๊าจะรื่นเริงไปด้วยการแสดงของศิลปิน วงดนตรีออร์เคสตร้าชั้นนำ รวมไปถึงการขับร้องประสานเสียง ทั้งในรูปแบบของดนตรีตะวันตกและดนตรีจีน มีการแสดงละครในรูปแบบของโอเปร่า และการจัดเวทีการแสดงดนตรีตามสถานที่ต่างๆ ในมาเก๊า อย่างเช่น โบสถ์สไตล์บารอค,โรงละคร D.Pedro V Theatre, สวนสาธารณะ และห้องประชุมในศูนย์วัฒนธรรมแห่งชาติ

Macau Open (Golf Tournament) การแข่งขันกีฬากอล์ฟจัดขึ้นในระหว่างเดือนเมษายน - พฤษภาคม โดยมี The Omega Tour และ The Macau Golf and Country Club เป็นผู้สนับสนุนการแข่งขัน สนามนี้เปิดโอกาสให้นักกอล์ฟระดับภูมิภาค ได้ลงสนามทดสอบและพัฒนาทักษะการเล่นกีฬากอล์ฟอย่างมืออาชีพ เพื่อก้าวไปสู่ตำแหน่งการเป็นนักกอล์ฟระดับโลก

มาเก๊ากรังด์ปรีซ์ จัด ขึ้นมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 50 ปี ที่นี่เป็นสนามประลองความเร็วของรถและรถจักรยานยนต์ระดับนานาชาติ ทีมีชื่อเสียงระดับโลก ตลอดระยะเวลาหนึ่งอาทิตย์ ถนนสายหลักกลางเมืองมาเก๊าจะเต็มไปด้วยสีสันของแผ่นป้ายต่างๆ ที่นำมาตกแต่งไว้อย่างสวยงาม แต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวและนักแข่งจากทุกมุมโลกมาที่นี่ เพื่อสัมผัสกับความสนุกสนานและความเร้าใจซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เพียงปีละ ครั้ง

เทศกาลคริสต์มาส แม้ ว่าประชากรส่วนใหญ่ในมาเก๊าจะไม่ใช่ชาวคริสเตียน แต่ในช่วงฤดูแห่งเทศกาลนี้ชาวมาเก๊าก็จัดให้มีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ ร้านขายขนมเค้กและเบเกอรี่ภายในโรงแรมต่างจัดเตรียมขนมเค้กคริสต์มาสในสไตล์ โปรตุเกสไว้จำหน่าย ในตัวเมืองก็จะประดับประดาไว้ด้วยโคมไฟสีสันสวยงาม




            ดิฉันคิดว่าฮ่องกง มาเก๊า เป็นเมืองเล็กๆซึ่งอยู่ภายใต้เครือเดียวกับประเทศจีนนั่นเองแต่ว่าเค้าจะมีเสรีทางด้านการค้า คนนิยมมาท่องเที่วโดยเฉพาะช็อปของแบรนด์เนมเพราะไม่ต้องเสียภาษีและราคาถูกกว่าครึ่งนึงเลยก็เป็นไปได้ทำให้ผู้คนชอบที่จะมาช็อปปิ้งที่นี่ ดารานักร้องที่โด่งดังก็ไม่ได้โด่งดีงแค่ในประเทศเท่านั้นเพราะดาราบางคนของเค้าก็เข้ามามีบทบาทในประเทศไทย คนไทยรู้จักและชื่นชอบก็มีอยู่บ้างไม่มากก็น้อย ส่วนเรื่องของการโฆษณาดิฉันคิดว่าการใช้ดาราเซเลปมาโฆษณานั้นมีผลกระทบทำให้ผู้คนสนใจในตัวโฆษรณาและสินค้านั้นๆแต่ก็ไม่ถึงกับมากเลยทีเดียวแบบเห็นดาราโฆษณาแล้วต้องซื้อบ้างคงไม่ถึงขนาดนั้นอาจมีการเรียงลำดับความสำคัญและความเหมาะสมในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าซึ่งอาจจะคล้ายๆกับประเทศไทยก็เป็นไปได้เพราะมีอิสระทางด้านความคิด มีสิทธิเลือกได้เอง เพราะที่ฮ่องกงและมาเก๊าเป็นส่วนของการปกครองพิเศษไม้่ได้ขึ้นอยู่กับประเทศจีนจึงมีอิสรภาพมากอยู่พอสมควร





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น